
“ทองนิวยอร์ก” รีบาวด์ 1% รับแรงซื้อทำกำไรหลังร่วงหนัก
ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กรีบาวด์ขึ้น 1% จากแรงซื้อเก็งกำไร แต่ลดลงรายสัปดาห์เป็นครั้งที่สอง เหตุนักลงทุนคลายกังวลการค้า-ข้อมูลจ้างงานสหรัฐฯ หนุนดอกเบี้ยขาขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาสัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ที่ 2 พฤษภาคม โดยนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไรหลังจากราคาทองคำร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบสองสัปดาห์เมื่อวันก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม ทองคำยังคงปรับตัวลดลงรายสัปดาห์ติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่สอง ท่ามกลางปัจจัยกดดันจากแนวโน้มการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่เริ่มผ่อนคลาย และตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งกว่าคาด
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิถุนายน ปรับขึ้น 21.10 ดอลลาร์ หรือ 0.65% ปิดที่ระดับ 3,243.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยตลอดทั้งสัปดาห์ ราคาทองคำร่วงลงถึง 2.6% หลังจากเคยแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3,500.05 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 22 เมษายน ก่อนจะดิ่งลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 14 เมษายนในช่วงกลางสัปดาห์
กระทรวงพาณิชย์ของจีนเปิดเผยว่า สหรัฐฯ ได้แสดงความตั้งใจหลายครั้งที่จะเปิดการเจรจาด้านภาษีนำเข้า และจีนเองก็ยังพร้อมเปิดรับการเจรจา ซึ่งสะท้อนแนวโน้มความตึงเครียดที่ลดลง และลดความต้องการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
นักวิเคราะห์เตือนว่า ระดับ 3,500 ดอลลาร์อาจกลายเป็นจุดสูงสุดระยะสั้นของราคาทองคำ โดยเฉพาะหากบรรยากาศความเสี่ยงในตลาดเริ่มดีขึ้น พร้อมระบุว่าตลาดยังจับตาความไม่แน่นอนของนโยบายภาษีจากรัฐบาลทรัมป์ ซึ่งอาจมีผลต่อการกำหนดทิศทางอัตราดอกเบี้ยและตลาดการเงินในระยะถัดไป
ด้านข้อมูลเศรษฐกิจ กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนเมษายนเพิ่มขึ้น 177,000 ตำแหน่ง สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 130,000 ตำแหน่ง ส่งผลให้นักลงทุนลดโอกาสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีจึงปรับตัวขึ้น ซึ่งส่งผลลบต่อทองคำที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
นักวิเคราะห์เตือนว่า หากแรงซื้อทองคำลดลงต่อเนื่อง ราคาทองอาจอ่อนตัวหลุดแนวรับสำคัญที่ระดับ 3,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์