“กสิกรไทย” ชี้กลุ่ม “โรงพยาบาล” เด่น ชู BDMS-PR9 รับผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่พุ่ง

บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ระบุผ่านบทวิเคราะห์ กรณีจำนวนผู้ป่วย โควิด-19 ปรับตัวสูงในเดือน เม.ย.68 จากข้อมูลเมื่อวันที่ 2 พ.ค.68 กรมควบคุมโรค รายงานจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 รวมจำนวนผู้รับบริการทั้งผู้ป่วยใน IPD และผู้ป่วยนอก OPD ในสัปดาห์ที่ 17 อยู่ที่ 8,330 ราย มากกว่ายอดในสัปดาห์ที่ 13 ถึง 9 เท่า โดยทั้งผู้ป่วย IPD และ OPD เพิ่มขึ้นอย่างมากหลัง เทศกาลสงกรานต์ ซึ่งเป็นช่วงที่ผู้คนมารวมตัวกัน

ทั้งนี้ เป็นไปตามแนวโน้มปี 2565-67 อีกทั้งแนวโน้มในอดีตบ่งชี้ว่า จะมีจุดสูงสุดในสัปดาห์ที่ 21-25 หรือประมาณเดือน มิ.ย.68 อีกทั้งผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วย OPD ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตยังคงอยู่ในระดับต่ำ 1-2 รายต่อสัปดาห์

ส่วนแนวโน้มโรคสำคัญในเดือน เม.ย.68 มีจำนวนคละกัน อาทิ โรคไข้หวัดใหญ่ สิ้นสุดการระบาดรอบแรกช่วงเดือน ม.ค.-มี.ค.68 และจำนวนผู้ป่วยเริ่มเพิ่มขึ้นเพื่อเข้าสู่รอบการระบาดครั้งต่อไป ผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ยังทำสถิติสูงสุดใหม่ทั้งรายเดือนและจำนวนสะสม

ขณะที่ โรคปอดบวม มีแนวโน้มเช่นเดียวกับโรคไข้หวัดใหญ่ ส่วนจำนวนผู้ป่วย โรคไข่เลือดออก เดือนเม.ย.68 ยังคงมีแนวโน้มลดลง โดยจำนวนผู้ป่วยอยู่ระหว่างกรณีฐานและกรณีที่ดีที่สุดของการคาดการณ์โดยกรมควบคุมโรค จำนวนผู้ป่วย โรคอาหารเป็นพิษ และ โรคท้องร่วง เดือน เม.ย. 68 เริ่มเพิ่มขึ้น แต่ยังคงอยู่ในช่วงจำนวนผู้ป่วยใกล้เคียงในอดีต อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ป่วยสะสมโรคอาหารเป็นพิษช่วง 4 เดือนแรกปี 68 ยังคงสูงเป็นประวัติการณ์

นอกจากนี้ พบผู้ป่วย โรคแอนแทรกซ์ จังหวัดมุกดาหาร ปลายเดือน เม.ย.68 จากรายงานของกรมควบคุมโรค ระบุว่า พบผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจากโรคแอนแทรกซ์จำนวน 1 ราย เมื่อวันที่ 30 เม.ย.68 ที่ผ่านมาโดยผู้ป่วยรายนี้สัมผัสสัตว์ที่ติดเชื้อแอนแทรกซ์ ซึ่งกรมควบคุมโรคอยู่ระหว่างดำเนินการป้องกันการแพร่กระจาย

ทั้งนี้ โรคแอนแทรกซ์เป็นการติดเชื่อแบคทีเรียมักเกิดจากการสัมผัสสัตว์ป่วยทั้งทางตรงหรือโดยอ้อม โดยการติดเชื่อเป็นการติดต่อจากสัตว์สู่คนเท่านั้น ซึ่งจะรักษาผู้ติดเชื่อด้วยการให้ยาปฏิชีวนะ

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายนักวิเคราะห์มีมุมมองเชิงบวกต่อ กลุ่มโรงพยาบาล โดยมี บริษัท โรงพยาบาลพระรามเก้า จำกัด (มหาชน) หรือ PR9 และ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน) หรือ BDMS เป็นหุ้นเด่นในกลุ่ม ซึ่งมองยอดติดเชื่อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นมากในเดือน เม.ย.68 ไม่น่าจะทำให้ความต้องการรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้นช่วงโลว์ซีชั่น (ไตรมาส 2) ในทางกลับกัน จำนวนผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ที่ยังคงทำสถิติสูงเป็นประวัติการณ์น่าจะส่งผลดีต่อความต้องการรักษาพยาบาลในช่วงไฮซีชั่นและทั้งปี 68 สำหรับการระบาดของโรคแอนแทรกซ์น่าจะอยู่ภายใต้การควบคุมของกรมควบคุมโรค โดยการติดเชื่อจะน่าจะจำกัดในบางพื้นที่ความเสี่ยงขาลง ได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอ และการแข่งขันที่รุนแรงกว่าคาดการณ์