
เอกสาร MFC มัด “พีระพันธุ์” ไม่แจ้งเมียถือครอง “หุ้นดุสิต”
โผล่เอกสารชี้ “พีระพันธุ์” ส่อฝืนจริยธรรมร้ายแรง หลัง “บลจ.เอ็มเอฟซี” แจ้งสัญญาโอนหุ้น “ชนัตถ์และลูก” ผู้ถือหุ้นใหญ่ DUSIT ของ “สุนงค์ สาลีรัฐวิภาค” เป็นโมฆะ เข้าข่ายอาจผิด ม.187 ห้ามรัฐมนตรีและคู่สมรสเป็นเจ้าของกิจการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลายเป็นประเด็นร้อนที่สั่นคลอนเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค อีกครั้ง เมื่อปรากฏเอกสารสำคัญจาก บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFC ที่ได้แจ้งยกเลิกการรับโอนหุ้นของ นางสุนงค์ สาลีรัฐวิภาค ภรรยาของนายพีระพันธุ์ ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อคุณสมบัติการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี
ตามเอกสารลงวันที่ 30 พฤษภาคม 2568 MFC ได้แจ้งต่อนางสุนงค์ ขอยกเลิกและเพิกถอนหนังสือสัญญาโอนหุ้นบริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด ทั้ง 2 ฉบับ (ลงวันที่ 25 ธ.ค. 2566 และ 4 ก.ย. 2567) โดยให้การโอนหุ้นสิ้นสุดลงและมีผลย้อนหลังเสมือนว่าไม่เคยมีการโอนหุ้นกันมาก่อน
สาเหตุของการยกเลิกสัญญาครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 บริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด ได้มีหนังสือปฏิเสธการโอนหุ้นดังกล่าว โดยอ้างข้อบังคับของบริษัทข้อที่ 6 ที่ระบุว่า “ห้ามมิให้โอนหุ้นของบริษัทให้แก่บุคคลภายนอก เว้นแต่จะโอนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมหรือผู้สืบสันดานของผู้ถือหุ้นเดิม” การโอนหุ้นให้แก่ MFC ซึ่งเป็นบุคคลภายนอก จึงไม่สามารถกระทำได้ตามกฎหมาย
ประเด็นสำคัญยิ่งกว่านั้นคือ ก่อนที่ MFC จะแจ้งยกเลิกสัญญา เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 นางสุนงค์ได้เข้าร่วมประชุมและใช้สิทธิในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากผู้ถือหุ้นของบริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด เข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 32/2568 ของบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงความเกี่ยวข้องของนางสุนงค์กับบริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด
ผลจากการยกเลิกสัญญาที่มีย้อนหลังนี้ ทำให้หุ้นของบริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด ในสัดส่วนร้อยละ 21.68 กลับคืนสู่การครอบครองของนางสุนงค์อย่างสมบูรณ์ และถือว่านางสุนงค์ได้ถือครองหุ้นจำนวนดังกล่าวมาโดยตลอด ซึ่งเกินกว่าเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
กรณีดังกล่าว กลายเป็นประเด็นทางกฎหมายที่อาจทำให้นายพีระพันธุ์ต้องพ้นจากตำแหน่ง เนื่องจากขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 187 ประกอบพระราชบัญญัติการจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ. 2543 ที่กำหนดคุณสมบัติของรัฐมนตรีไว้อย่างชัดเจนว่า รัฐมนตรีต้องไม่เป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท เกินกว่าจำนวนที่กฎหมายบัญญัติ (ร้อยละ 5) ข้อห้ามนี้ ให้ใช้บังคับแก่คู่สมรสและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะของรัฐมนตรีด้วย เพื่อป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อนและการซุกซ่อนทรัพย์สิน หากรัฐมนตรีหรือคู่สมรสประสงค์จะได้รับประโยชน์จากหุ้นที่เกินกว่ากำหนด ต้องโอนหุ้นส่วนที่เกินนั้นไปให้แก่ผู้จัดการทรัพย์สิน (นิติบุคคล) ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี
ดังนั้น เมื่อการโอนหุ้นของนางสุนงค์ให้แก่ MFC ไม่สำเร็จและเป็นโมฆะย้อนหลัง จึงเท่ากับว่านางสุนงค์ ซึ่งเป็นคู่สมรสของนายพีระพันธุ์ ได้ถือครองหุ้นในบริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด เกินกว่าร้อยละ 5 มาโดยตลอดระยะเวลาที่นายพีระพันธุ์ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี อันอาจเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ซึ่งขณะนี้ได้มีการยื่นเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบคุณสมบัติต่อไป
อนึ่งบริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด คือผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ DUSIT โดยพบว่า มีสัดส่วนการถือครองหุ้นสูงถึง 422,821,310 หุ้น หรือคิดเป็น 49.74% และล่าสุดเพิ่งมีกรณีการโหวตไม่รับงบการเงินและไม่สนับสนุนกรรมการบริษัทเดิม 4 คน เข้ารับตำแหน่งอีกวาระหนึ่ง