อวดโฉม 12 หุ้นเล็กทะยานแรง DV8 ครึ่งปีแรกพุ่ง 10 เท่าตัว!
หุ้นกลุ่ม mai ครึ่งปีแรก 2568 กระหึ่ม DV8 ทะยานกว่า 1,096% นำทีม HYDRO-ECF-JCKH ขณะที่ SET Index ทรุด 22.2% ท่ามกลางเศรษฐกิจชะลอตัว-ความเสี่ยงภาษีนำเข้าสหรัฐฯ นักวิเคราะห์แนะจับตาการเมืองและทิศทางดอกเบี้ยโลกอย่างใกล้ชิด
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการรวบรวมข้อมูลความเคลื่อนไหวของหุ้นในกลุ่ม mai ในรอบ 6 เดือนแรกของปี 68 (ราคาปิด 30 ธ.ค.67-30 มิ.ย.68) เพื่อนำเสนอให้กับนักลงทุนในการประกอบการตัดสินใจลงทุนในช่วงที่ตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในช่วงผันผวน โดยมีรายละเอียดตามตามรางด้านล่างนี้
สำหรับหุ้น mai ที่ปรับตัวขึ้นมาอย่างโดดเด่นสุดในรอบ 6 เดือนคือ DV8 ปรับตัวขึ้นมากว่า 1,096% จากระดับ 0.51 บาท เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.67 เทียบกับราคาปิดที่ระดับ 6.10 บาท เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.68 ส่วนหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงเกิน 100% อื่นๆ ได้แก่ HYDRO ปรับตัวขึ้น 890%, ECF ปรับตัวขึ้น 123% และ JCKH ปรับตัวขึ้น 100%
อย่างไรก็ตาม หุ้น DV8 ยังคงต้องเฝ้าระวังต่อ หลังตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ประกาศขยายเวลาให้เข้าข่ายมาตรการกำกับการซื้อขายระดับ 1 ห้ามคำนวณวงเงินซื้อขาย และ Cash Balance ตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค.68-22 ก.ค.68 หลังราคามีความร้อนแรงจนเกินไป
ขณะที่หุ้น HYDRO, ECF และ JCKH ยังไม่มีข่าวสารใดๆ เกี่ยวกับพัฒนาการในการเติบโต รวมถึงแผนในการเติบโตในช่วงเร็วๆ นี้
สำหรับตลาดหุ้นไทยในช่วงครึ่งแรกของปี 68 (1 ม.ค.–30 มิ.ย. 2568) ดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET Index) ร่วงจาก 1,400.21 จุด ณ สิ้นปี 2567 เหลือ 1,089.56 จุด ลดลง 310.65 จุด หรือ -22.2% ท่ามกลางบรรยากาศการลงทุนที่ตึงเครียดทั้งในและต่างประเทศ
นอกจากนี้ ธนาคารโลกพร้อมสำนักวิจัยชั้นนำต่างปรับลดคาดการณ์อัตราขยายตัวเศรษฐกิจไทยปี 2568 ลงเหลือเพียง 1.5–1.8% ท่ามกลางกำลังซื้อที่ชะลอตัวและภาคการส่งออกที่เผชิญความเสี่ยงจากมาตรการภาษีนำเข้าสหรัฐฯ สูงสุดถึง 36% หากการเจรจาไม่คืบหน้า
ขณะที่วิเคราะห์เน้นย้ำให้นักลงทุนติดตามเสถียรภาพทางการเมือง ทิศทางนโยบายการค้าไทย–สหรัฐฯ และจังหวะผ่อนคลายนโยบายการเงินโลกอย่างใกล้ชิดก่อนตัดสินใจลงทุน