
WTI ปิดบวก 2% หลัง “ทรัมป์” ร่นเส้นตายรัสเซีย-สหรัฐบรรลุข้อตกลงการค้า EU
WTI ปรับขึ้น 1.55 ดอลลาร์ รับข่าวบวกหลายด้าน ทั้งทรัมป์ร่นเส้นตายรัสเซีย ขณะที่ สหรัฐฯ-EU ลดภาษีนำเข้า รวมถึงตกลงซื้อพลังงาน พร้อมจับตาเจรจาสหรัฐฯ-จีน และประชุมโอเปกพลัส
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 2% เมื่อวันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม 2568 โดยได้รับแรงหนุนจากหลายปัจจัยในเวทีการเมืองและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ โดยเฉพาะกรณีที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา ประกาศร่นเวลากำหนดเส้นตายให้รัสเซียยุติสงครามในยูเครนจากเดิม 50 วัน เหลือเพียง 10-12 วัน มิฉะนั้นจะถูกคว่ำบาตรขั้นเด็ดขาด
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 1.55 ดอลลาร์ หรือ 2.38% ปิดที่ระดับ 66.71 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) ส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 1.60 ดอลลาร์ หรือ 2.34% ปิดที่ 70.04 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นอกจากนี้ ตลาดยังตอบรับเชิงบวกต่อข่าวการบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป (EU) โดยสหรัฐฯ จะลดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจาก EU จาก 30% เหลือ 15% พร้อมกับข้อผูกพันให้ EU ซื้อพลังงานจากสหรัฐฯ มูลค่า 750,000 ล้านดอลลาร์ในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า
อีกทั้ง นักลงทุนยังติดตามความคืบหน้าการเจรจาระหว่างเจ้าหน้าที่เศรษฐกิจระดับสูงของสหรัฐฯ และจีน ที่กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน ซึ่งมีความหวังว่าจะมีการขยายเวลาบังคับใช้อัตราภาษีศุลกากรสูงที่เดิมกำหนดในวันที่ 12 สิงหาคม เพื่อเปิดทางเจรจาข้อตกลงการค้าอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน คณะกรรมการร่วมด้านการตรวจสอบระดับรัฐมนตรี (JMMC) ของกลุ่มโอเปกและพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ได้ประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการปฏิบัติตามข้อตกลงการผลิตน้ำมัน ก่อนที่กลุ่มประเทศสมาชิกโอเปกพลัส 8 ชาติ ได้แก่ ซาอุดีอาระเบีย รัสเซีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คูเวต โอมาน อิรัก คาซัคสถาน และแอลจีเรีย จะประชุมกันอีกครั้งในวันที่ 3 สิงหาคม เพื่อพิจารณาเรื่องการเพิ่มกำลังการผลิตในเดือนกันยายนนี้