SCGP ปิดดีลซื้อ MYPAK เสริมแกร่งบรรจุภัณฑ์กระดาษลูกฟูก “อินโดนีเซีย” รับรู้รายได้ทันที
SCGP ปิดการเข้าซื้อหุ้น MYPAK ผู้ผลิตกล่องกระดาษลูกฟูกรายใหญ่ในอินโดนีเซีย มูลค่า 981 ล้านบาท เริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ธันวาคม 2568 เสริมศักยภาพการเติบโตและขยายฐานลูกค้ากลุ่มอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าอุปโภคบริโภค
บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP แจ้งว่า การเข้าซื้อหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 100 ในบริษัท PT Prokemas Adhikari Kreasi หรือ MYPAK ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว ตามที่ได้เปิดเผยสารสนเทศต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2568 โดยมีมูลค่าธุรกรรมรวมทั้งสิ้น 4.67 แสนล้านรูเปียห์ หรือประมาณ 981 ล้านบาท การเข้าลงทุนดังกล่าวดำเนินการผ่านบริษัทย่อย 2 แห่ง ได้แก่ TCG Solutions Pte. Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทกลุ่มสยามบรรจุภัณฑ์ จำกัด บริษัทร่วมทุนระหว่าง SCGP และ Rengo Company Limited ในสัดส่วนร้อยละ 70 ต่อ 30 และบริษัทสยามคราฟท์อุตสาหกรรม จำกัด โดยบริษัทย่อยทั้งสองจะถือหุ้นใน MYPAK ในสัดส่วนร้อยละ 60 ต่อ 40 ตามลำดับ ทั้งนี้ บริษัทจะเริ่มรับรู้ผลประกอบการของ MYPAK ในงบการเงินรวมตั้งแต่เดือนธันวาคม 2568 เป็นต้นไป
MYPAK ถือเป็นหนึ่งในผู้ผลิตกล่องกระดาษลูกฟูกชั้นนำใน ประเทศอินโดนีเซีย มีกำลังการผลิตรวม 144,000 ตันต่อปี ตั้งอยู่ที่เมืองเบกาซี ทางตะวันตกของเกาะชวา โดยมีฐานลูกค้าหลักเป็นบริษัทข้ามชาติและแบรนด์สินค้าชั้นนำในกลุ่มตลาดอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าอุปโภคบริโภค นอกจากนี้ พื้นที่ดังกล่าวยังมีศักยภาพรองรับการจัดตั้ง Inspired Solutions Studio และการขยายโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์สำหรับผู้บริโภคในอนาคต
ณ สิ้นปี 2567 MYPAK มีรายได้ 8.46 แสนล้านรูเปียห์ หรือประมาณ 1,777 ล้านบาท และมีสินทรัพย์รวม 1.27 ล้านล้านรูเปียห์ หรือประมาณ 2,670 ล้านบาท การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มมูลค่าและเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจบรรจุภัณฑ์กระดาษลูกฟูกของ SCGP ในตลาดอินโดนีเซีย รวมถึงยกระดับการให้บริการด้านบรรจุภัณฑ์ที่สามารถรองรับการขยายตัวของฐานลูกค้าในระยะยาว
ทั้งนี้ SCGP มีแผนปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานของ MYPAK ผ่านการนำแนวปฏิบัติที่ดีมาประยุกต์ใช้ การบูรณาการห่วงโซ่อุปทาน และการเสริม Synergy ร่วมกับธุรกิจอื่นในเครือที่ดำเนินงานอยู่ในประเทศอินโดนีเซีย สำหรับขนาดของรายการลงทุนดังกล่าวมีมูลค่าเท่ากับร้อยละ 0.55 ของสินทรัพย์รวมตามงบการเงินรวมของ SCGP ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 และเมื่อรวมกับรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ในช่วง 6 เดือนก่อนหน้า จะมีขนาดรวมเท่ากับร้อยละ 3.39 ซึ่งไม่เข้าข่ายเป็นรายการที่ต้องปฏิบัติตามเกณฑ์การได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และไม่เป็นรายการที่เกี่ยวโยงกัน
