“WHA HOLDING” โยนบิ๊กล็อต WHA รวม 3.3% ให้ “จรีพร-บุตรสาว-เครือญาติ”

“WHA HOLDING” ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ขายบิ๊กล็อต WHA รวม 493.50 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 3.3% ให้ "จรีพร-บุตรสาว-เครือญาติ" ยันไม่กระทบแผนบริหาร-ดำเนินงาน พร้อมส่งสัญญาณผลงาน 4 กลุ่มธุรกิจฟื้นตัวต่อเนื่อง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (21 พ.ค.) มีรายการสรุปซื้อขายกระดานรายใหญ่ (Big lot) ของหุ้น บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA จำนวน 4 รายการ ปริมาณ 493,500,000 หุ้น มูลค่ารวม 1.18 พันล้านบาท ราคาเฉลี่ย 2.40 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นราคาต่ำกว่ากระดานซื้อขายราว 21% โดย WHA ปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 3.04 บาท ลบ 0.06 บาท หรือ 1.94% สูงสุดที่ 3.12 บาท ต่ำสุดที่ 3.04 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1.41 พันล้านบาท

ทั้งนี้ WHA แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) วันนี้ว่า บริษัทฯ ได้รับแจ้งจาก บริษัท ดับบลิว เอชเอ โฮลดิ้ง จำกัด ผู้ถือหุ้นรายหนึ่งของบริษัทได้ขายหุ้นในบริษัท รวมทั้งสิ้นจำนวน 493,500,000 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 3.30 ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัท ให้บุคคลดังต่อไปนี้

ทั้งนี้การทำรายการซื้อขายหุ้นดังกล่าว ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นที่ซื้อขายหุ้นดังกล่าวเปลี่ยนแปลงไปดังนี้

อย่างไรก็ตามการทำรายการซื้อขายหุ้นดังกล่าวข้างต้น ไม่มีผลกระทบต่ออำนาจในการควบคุมบริษัท นโยบายการดำเนินธุรกิจและโครงสร้างของคณะกรรมการบริษัทและผู้บริหาร โดยยังคงเป็นไปตามเดิม

นอกจากนี้ การทำรายการซื้อขายหุ้นดังกล่าว ไม่ทำให้การถือหุ้นของผู้ถือหุ้นข้างต้นข้ามจุดที่ต้องคำเสนอซื้อตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แต่อย่างใด และการทำรายการซื้อขายหุ้นดังกล่าวไม่จัดเป็นรายการเกี่ยวโยงเนื่องจากเป็นรายการระหว่างผู้ถือหุ้นด้วยกันเอง ไม่เกี่ยวข้องกับบริษัท

ทั้งนี้ นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม WHA เปิดเผยถึงรายงานการขายหุ้นของผู้ถือหุ้นใหญ่ตามรายงานที่แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า เป็นธุรกรรมการขายหุ้น WHA ของ บริษัท ดับบลิวเอชเอ โฮลดิ้ง จำกัด (WHA HOLDING) ซึ่งถือหุ้นโดยางสาวจรีพร จารุกรสกุล และนายแพทย์สมยศ อนันตประยูร ให้แก่ “นางสาวจรีพร จารุกรสกุล บุตรสาว และเครือญาติ” โดยไม่ได้มีการขายหุ้นให้กับกลุ่มบุคคลอื่น ทั้งนี้ อำนาจในการควบคุมบริษัทฯ โครงสร้างของคณะกรรมการบริษัทฯ และผู้บริหารยังเป็นไปตามเดิม จึงไม่กระทบต่อการบริหารและแผนการดำเนินธุรกิจ

สำหรับธุรกรรมการขายหุ้น WHA ของ WHA HOLDING ครั้งนี้ คิดเป็นจำนวนทั้งสิ้น 493,500,000 หุ้น โดยแบ่งเป็นการขายให้แก่ “นางสาวจรีพร จารุกรสกุล” จำนวน 246,750,000 หุ้น  “นางสาวชัชชมนต์ อนันตประยูร” บุตรสาว จำนวน 110,510,000 หุ้น “นายชัยวัฒน์ พู่พิสุทธิ์” (หลานชาย) จำนวน 68,120,000 หุ้น และ “นางสาวสุพิชญา พู่พิสุทธิ์” (หลานสาว) จำนวน 68,120,000 หุ้น ตามลำดับ

“การทำรายการซื้อขายหุ้นดังกล่าวข้างต้น ไม่มีผลกระทบต่ออำนาจในการควบคุมบริษัท โดยนโยบายการดำเนินธุรกิจ และโครงสร้างของคณะกรรมการบริษัทและผู้บริหารยังคงเป็นไปตามเดิม นอกจากนี้ การทำรายการซื้อขายหุ้นดังกล่าวไม่ทำให้การถือหุ้นข้ามจุดที่ต้องคำเสนอซื้อตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และการทำรายการซื้อขายหุ้นดังกล่าวไม่จัดเป็นรายการเกี่ยวโยง เนื่องจากเป็นรายการระหว่างผู้ถือหุ้นด้วยกันเอง ไม่เกี่ยวข้องกับบริษัท โดยภายหลังจากการทำธุรกรรม ภายในครอบครัวของคุณจรีพรยังถือหุ้นรวมกันกว่าร้อยละ 45.5”

ขณะที่ผลการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ผ่านมา ทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจของบริษัทฯ มีการเติบโตที่ดีท่ามกลางสถานการณ์โควิดระลอกใหม่ ธุรกิจโลจิสติกส์ สามารถเซ็นต์สัญญาเช่าระยะสั้นที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า 25,949 ตารางเมตร จากเป้ารวมทั้งปี 50,000 ตารางเมตร รวมถึงปัจจุบันมีลูกค้าแสดงความสนใจเช่าพื้นที่คลังสินค้า Built-to-Suit และ Warehouse Farm แล้วมากกว่า 200,000 ตารางเมตร นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังมีแผนการพัฒนาโครงการศูนย์กระจายสินค้าบน Strategic Location เพิ่มเติมอีก 5 โครงการ โดยมีพื้นที่รวมกว่า 400,000 ตารางเมตร

สำหรับ ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม ลูกค้าและนักลงทุนยังแสดงความสนใจซื้อที่ดินเข้ามาเรื่อยๆ โดยในไตรมาสที่ผ่านมาบริษัทฯ มียอดขายที่ดินในไทยและเวียดนามรวม 213 ไร่  ซึ่งบริษัทฯ คาดการณ์ว่า แผนการผลิตและกระจายวัคซีนของประเทศไทย และประเทศต่างๆ ทั่วโลก จะทำให้การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการผลิตและการลงทุนจากต่างประเทศจะเริ่มส่งสัญญาณที่ชัดเจนในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 ตาม บริษัทฯ จึงคงเป้ายอดขายที่ดินในประเทศไทยและเวียดนามสำหรับปี 2564 ไว้ที่จำนวน 1,030 ไร่

ส่วน ธุรกิจสาธารณูปโภค ปริมาณการจำหน่ายและบริหารน้ำรวมทั้งในและต่างประเทศปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ประกอบการปิโตรเคมี โรงไฟฟ้าและยานยนต์ ซึ่งเป็นลูกค้าหลักของบริษัทฯ กอปรกับความต้องการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้นจากการเริ่มทยอยเปิดดำเนินการของลูกค้าใหม่ตั้งแต่ปลายปี 2563 เป็นต้นมา นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังได้พัฒนาและนำเสนอผลิตภัณฑ์น้ำมูลค่าเพิ่ม (Value added product) เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรม โดยเป็นการนำนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้เพื่อสร้างความยั่งยืนทั้งด้านการบริหารจัดการต้นทุนการจัดหาน้ำของบริษัทฯ และลดการพึ่งพิงน้ำดิบจากแหล่งน้ำอื่นอีกด้วย

ด้านธุรกิจไฟฟ้า บริษัทฯ สามารถเซ็นต์สัญญาและเริ่มเปิดดำเนินงานเชิงพาณิชย์ (COD) เพื่อผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ให้กับลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ มีกำลังการผลิตที่เปิดดำเนินการแล้วอยู่ที่ 44 เมกะวัตต์ และคาดว่าในปีนี้จะสามารถเซ็นสัญญาเพื่อลงทุนผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ได้เพิ่มเติมอีกไม่น้อยกว่า 40 เมกะวัตต์ บริษัทฯ คงเป้าจำนวนการเซ็นสัญญาที่ 90 เมกะวัตต์ ณ สิ้นปี 2564 และเพิ่มเป็น 300 เมกะวัตต์ภายในปี 2566 ในขณะที่โรงไฟฟ้าอื่นๆ อาทิ กลุ่มโรงไฟฟ้า IPP กลุ่มโรงไฟฟ้า SPP ทั้ง 8 โรง และโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม ชลบุรี คลีน เอ็นเนอร์ยี่ (CCE) ยังมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง

ขณะเดียวกันธุรกิจดิจิทัลแพลตฟอร์ม บริษัทฯ อยู่ระหว่างการจัดทำแผนการลงทุน 5G Tower ร่วมกับผู้ให้บริการโทรคมนาคมชั้นนำเพื่อติดตั้งและทดสอบการใช้งานจริงของโซลูชัน 5G ภายในเขตนิคมอุตสาหกรรมของดับบลิวเอชเอ ควบคู่ไปกับการขยายการให้บริการเชื่อมต่อสื่อสารแบบโครงข่ายสายเคเบิลใยแก้วนำแสง (FTTx) ภายในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมทั้งหมดให้แล้วเสร็จ

Back to top button