
เครือข่ายฯ “ปชช.” ร้อง DSI เอาผิด “กลุ่มทุน–นักการเมือง” โกงสหกรณ์ปาล์มกระบี่
ตัวแทนเครือข่ายภาคประชาชน ยื่นหนังสือ DSI ดำเนินคดีกลุ่มหนุนผู้ต้องหาคดีโกงสหกรณ์ปาล์มน้ำมันกระบี่ พร้อมตั้งคำถามถึงบทบาท ส.ว. รับเรื่องเข้าข่ายกระทำความผิดหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (7 พ.ค.68) กองคดีปฎิบัติการคดีพิเศษภาค กรมสอบสวนคดีพิเศษ อาคาร A นายมาโนช เพ็ชรชู ตัวแทนเครือข่ายภาคประชาชนช่วย DSI รักษาของกลางในคดีพิเศษที่ 56/2566 โดยมี นายเทพพิทักษ์ วงศ์ไชยภาค เป็นประธานเครือข่าย ได้เข้ายื่นหนังสือต่อ ร้อยตำรวจเอก ชาญณรงค์ ทับสาร รองผู้อำนวยการกองคดีปฎิบัติการคดีพิเศษภาค กรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม ให้ดำเนินคดีกับผู้สนับสนุนผู้กระทำความผิดในคดีทุจริตชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีแล้ว และยังไม่ได้เป็นผู้ต้องหาซึ่งมีทั้งเจ้าของโรงสกัดน้ำมันปาล์มในจังหวัดกระบี่ และจังหวัดใกล้เคียง กลุ่มข้าราชการ นักการเมือง
ทั้งนี้ เนื่องจากศาลจังหวัดกระบี่ ยกคำร้องขอเข้าใช้โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มคลองท่อม และศาลปราบปรามทุจริตประพฤติมิชอบกลาง ไม่ประทับรับฟ้อง คดีของผู้ต้องหาในคดีซึ่งนำโดยอดีตข้าราชการครูและหันมาเป็นกรรมการสหกรณ์และชุมนุมสหกรณ์และร่วมกันกระทำความผิดกับอดีตเจ้าหน้าที่ธนาคารแห่งหนึ่ง ซึ่งถูกแจ้งข้อกล่าวหาโดยคณะพนักงานสอบสวนในคดีพิเศษที่ 56/2566 แล้ว แต่ยังคงเคลื่อนไหวระหว่างการต่อสู้คดีล่าสุด ได้ยื่นหนังสือต่อกลุ่มเครือข่ายการเมืองที่จังหวัดตรังเพื่อขัดขวางการรักษาของกลางของคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 56/2566
โดยมีเครือข่ายภาคประชาชนช่วยรักษาของกลางช่วยคณะพนักงานสอบสวนในการรักษาของกลางไว้ไม่ให้เสื่อมสภาพ ทั้งนี้ เนื่องจากเครื่องจักรโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มทั้งหมดเป็นเหล็ก การบำรุงรักษาของกลาง จึงจำเป็นที่จะต้องเดินเครื่องจักรโดยมีทะลายปาล์ม เข้าไปในขบวนการไม่ให้เหล็กบดเสียดสีกับเหล็กขณะบำรุงรักษา
นายมาโนช กล่าวว่า มายื่นหนังสือต่อหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 56/2566 ในครั้งนี้เป้าประสงค์เพื่อต้องการสะท้อนให้เห็นภาพว่าขบวนการทุจริตชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ ยังคงไม่หยุดยังคงมีความพยายามของกลุ่มผู้ต้องหาที่ร่วมกันกระทำความผิดทั้งวที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาแล้วและยังไม่ถูกแจ้งข้อกล่าวว่า ยังคงหาทางต่อสู้ช่วงชิงโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มคลองท่อม หวังเป็นเจ้าของให้สมบูรณ์ ทั้งที่ออกอุบายว่าขายโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มคลองท่อมเพื่อให้ชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ ได้มีสภาพคล่อง
แต่เมื่อขายจริง ชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ กลับไม่ได้เงินสดมาเสริมสภาพคล่อง ทำให้พี่น้องประชาชนชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่และจังหวัดใกล้เคียงที่ร่วมลงทุนกับสหกรณ์ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงนอกจากไม่ได้รับเงินปันผลจากการลงทุนแล้วยัง ไม่มีเงินใช้หนี้เงินกู้ที่มีต่อสหกรณ์ต้นสังกัดของสหกรณ์นั้นๆกระทบต่อเป็นวงกว้างต่อผู้มีส่วนได้เสียจำนวน กว่า 50,000 ครอบครัว
ในโอกาสที่คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 56/2566 ยึดอายัดโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มคลองท่อมและดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดซึ่งชอบด้วยกฎหมายการสอบสวนคดีพิเศษแล้ว ในฐานะที่เป็นคนไทยที่เป็นพี่น้องของชาวเกษตรกรประชาชนคนไทย พวกเราเลยร่วมตัวกันช่วยคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 56/2566 ในการรักษาของกลางในคดีไว้จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด และในโอกาสสำคัญต่างๆ พวกเราจะร่วมกันจิตอาสารักษาของกลางขึ้น ซึ่งจะประชุมหารือเพื่อทำกิจกรรมจิตอาสารักษาของกลางในคดีพิเศษที่ 56/2566 โดยคาดว่า ในเดือนมิถุนายน จะระดมพวกเราที่มีหลายพันคนช่วยกันซ่อมบำรุงเครื่องจักรและทาสีโรงงาน
“เรื่องนี้เราสู้กันถึงถวายฎีกาต่อพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 เพื่อรักษาของกลางโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มคลองท่อมเอาไว้ เราจะไม่ยอมให้กลุ่มกระทำความผิดใช้วิธีต่างๆในการกดดันคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ให้ปฎิบัติหน้าที่เพื่อเอื้อการกระทำความผิดแต่ตรงกันข้ามเราจะขุดคุยชี้เป้าให้ข้อมูลร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้กระทำความผิดขณะนี้ เราทราบความเคลื่อนไหวของกลุ่มทุกส่วนที่สนับสนุนผู้กระทำความผิดมีทั้งข้าราชการ ข้าราชการการเมือง เจ้าของโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม ที่หวังจะได้โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มในราคาที่ถูก และขณะนี้เรามีข้อมูลว่ากลุ่มที่สนับสนุนการกระทำความผิดในครั้งนี้ บุกรุกป่า เอาตัวแทนมาเป็นเจ้าของที่ดิน สปก ในพื้นที่จังหวัดตรังและกระบี่ จำนวน กว่า 2,000 ไร่ จะได้ร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีต่อไป” นายมาโนช กล่าว
ตัวแทนเครือข่ายภาคประชาชนช่วยDSIรักษาของกลาง กล่าวอีกว่า ต้องขอชื่นชมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 56/2566 ที่กล้าทำในเรื่องที่ถูกต้องและรักษากฎหมายของประเทศนี้ไว้ แต่ขอติง สว.ที่รับเรื่องจากคณะผู้ต้องหาในคดีพิเศษที่ 56/2566 ว่า สว.และคณะจะเข้าข่ายสนับสนุนผู้กระทำความผิดหรือไม่ ตัว สว.เองมีความชอบธรรมแล้วหรือไม่ประการใด ก่อนที่จะมาตรวจสอบคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ทำเพื่อรักษากฏหมายและให้ความเป็นธรรมทุกด้านการที่คณะพนักงานสอบสวนต้องดูแลบำรุงรักษาของกลางไว้
เนื่องจากศาลมีคำสั่งชัดไม่ให้บริษัทกระบี่วิเศษครอบครองใช้โรงงาน และขบวนการนี้ยังอยู่ในชั้นศาล ซึ่งเครือข่ายหลายพันคนพร้อมที่จะสู้แทนคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษกับกลุ่มทุนเพียง 5 รายและอดีตกรรมการสหกรณ์เพียงไม่กี่ราย เรื่อง กำลัง อยู่ในกระบวนการยุติธรรม ไม่สมควรที่จะใช้อำนาจนอกกฏหมาย เพื่อเบี่ยงเบนประเด็น ลดทอนน้ำหนัก ความน่าเชื่อถือ ของกระบวนการสอบสวนโดยชอบด้วยกฏหมาย ทุกคนควรเคารพกฎหมาย ปล่อยให้กระบวนการยุติธรรมเดินไปตามครรลองต่อไป หยุด!แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม อย่าขัดขวางผลประโยชน์ของชาติ ของประชาชน ตัวแทนเครือข่ายภาคประชาชนกล่าว
รายงานข่าวเพิ่มเติมอีกว่า ตัวแทนเครือข่ายภาคประชาชน ช่วยDSIรักษาของกลางเคลื่อนไหวยื่นหนังสือถึงคณะพนักงานสอบสวนเนื่องจาก กรรมการบริษัทกระบี่วิเศษ ที่ล้วนเป็นผู้ต้องหาในคดีทุจริตชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ ไปยื่นหนังสือต่อ สว.จังหวัดตรัง เพื่อให้ตรวจสอบคณะพนักงานสอบสวนทั้งที่ทราบดีอยู่แล้วว่าตนเองกำลังต่อสู้คดีในชั้นศาล