“นายก” เตรียมลงพื้นที่ชายแดน 11 มิ.ย. ย้ำชัด “ปรับกำลังทหาร ไม่ใช่ถอย” ปมไทย-กัมพูชา

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ทำเนียบรัฐบาล วันนี้ (10 มิ.ย.68) โดยยืนยันว่า รัฐบาลไทยดำเนินการคลี่คลายสถานการณ์ด้วยความระมัดระวัง ใช้สันติวิธี และเจรจาภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศ

นางสาวแพทองธาร ระบุว่า ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ไทยได้ประสานงานในทุกระดับ ทั้งฝ่ายความมั่นคง กองทัพ และกระทรวงที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการพูดคุยโดยตรงกับ สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา และ พลเอก ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ซึ่งทุกฝ่ายยืนยันเจตนารมณ์ร่วมกันในการรักษาความสงบ และไม่ให้สถานการณ์บานปลาย

“เราเลือกใช้คำว่า ปรับกำลัง แทนคำว่า ถอย เพื่อให้เกียรติซึ่งกันและกัน ทั้งไทยและกัมพูชาต่างมีการปรับกำลังในพื้นที่ที่มีข้อพิพาทให้อยู่ในสถานการณ์ปกติ ส่วนพื้นที่อื่น ๆ ยังรักษาระดับตามเดิม” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันว่า การประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย–กัมพูชา (JBC) จะเกิดขึ้นในวันที่ 14 มิ.ย.นี้ ตามกำหนด ซึ่งได้รับการยืนยันจากทั้งสองฝ่าย ทั้งระดับกระทรวงและรัฐบาล

สำหรับกรณีที่กัมพูชามีแนวโน้มจะยื่นเรื่องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) นางสาวแพทองธาร ระบุชัดเจนอีกครั้งว่า “ไทยไม่รับเขตอำนาจศาลโลก” และยังยึดแนวทางการทูต ซึ่งได้รับการยอมรับในเวทีสากล

ส่วนกระแสข่าวเรื่องการปิดด่านถาวรนั้น นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ไม่มีการปิดด่านถาวร แต่มีการกำหนดช่วงเวลาเปิด-ปิดอย่างชัดเจน เพื่อคงความมั่นคงควบคู่กับการดูแลภาคธุรกิจและประชาชนที่พึ่งพาการค้าชายแดน

ในส่วนของข้อเรียกร้องจากภาคประชาชน อาทิ มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน และกลุ่ม ศปปส. ที่เสนอให้รัฐบาลแถลงไม่รับอำนาจศาลโลกอย่างเป็นทางการ และขอยกเลิก MOU ปี 2543 นายกรัฐมนตรี ระบุว่า รัฐบาลรับฟังทุกข้อเสนอ แต่จะพิจารณาเป็นรายกรณี พร้อมย้ำว่า ขณะนี้ต้องโฟกัสที่ข้อพิพาทเฉพาะหน้าเพื่อไม่ให้ประเด็นสับสน

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงประเด็นหลักที่พูดคุยกับผู้นำกัมพูชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทั้งสองประเทศต้องการความสงบ เราจึงพูดกันด้วยความจริงใจ เร่งเครื่องเรื่องเศรษฐกิจ ไม่อยากให้พื้นที่กลายเป็นสนามรบ

ในวันพรุ่งนี้ (11 มิ.ย.68) นางสาวแพทองธาร มีกำหนดลงพื้นที่ อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เพื่อตรวจเยี่ยมสถานการณ์ชายแดน รับฟังข้อมูลโดยตรงจากเจ้าหน้าที่ และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน

โดยช่วงเช้า เวลา 9:30 น. นายกรัฐมนตรีจะเดินทางออกจากกรุงเทพฯ ถึงสนามบินบุรีรัมย์ ก่อนมุ่งหน้าไปยังที่ว่าการอำเภอกาบเชิง เพื่อเป็นประธานการประชุมด้านความมั่นคง และหารือมาตรการช่วยเหลือประชาชนใน 7 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา

นายกรัฐมนตรีจะตรวจเยี่ยมและมอบสิ่งของเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้แก่กำลังพล กองกำลังสุรนารี อำเภอกาบเชิง  และร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับกำลังพล จากนั้นจะเดินทางต่อไปยังจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม เพื่อพบปะประชาชนในพื้นที่และติดตามบรรยากาศการค้าชายแดน