“แพทยสภา” ยืนยันมติลงโทษแพทย์ 3 ราย ปมดูแล “ทักษิณ” ชั้น 14 สวนวีโต้สภานายกพิเศษ
แพทยสภามีมติยืนยันลงโทษแพทย์ 3 ราย กรณีดูแล “ทักษิณ” ที่ รพ.ตำรวจ ชั้น 14 หลังที่ประชุมเห็นชอบเกิน 2 ใน 3 แม้ “สภานายกพิเศษ” มีความเห็นยับยั้ง ขณะอุปนายกฯ แจงไลน์หลุดไม่ใช่ของแพทยสภา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (12 มิ.ย. 2568) ศาสตราจารย์นายแพทย์ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา คนที่หนึ่ง เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการแพทยสภา ครั้งที่ 6/2568 โดยมีวาระสำคัญคือ การพิจารณาหนังสือยับยั้ง (วีโต้) จากสภานายกพิเศษ ซึ่งมีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ดำรงตำแหน่ง โดยเนื้อหาเกี่ยวข้องกับการคัดค้านมติลงโทษแพทย์ 3 ราย ในคดีจริยธรรม กรณีดูแลรักษานายทักษิณ ชินวัตร บนชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ
ศ.นพ.ประสิทธิ์ ระบุว่า วาระนี้มีกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุม จำนวน 68 คน จากจำนวน กรรมการแพทยสภา ที่มีสิทธิลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิลงคะแนนทั้งคณะ ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภา เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภา จะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้เกี่ยวข้องได้ทราบต่อไป
“ในการประชุมวันนี้ที่ประชุมพิจารณาแบ่งเป็นรายกรณีทั้ง 3 กรณี และแต่ละกรณีกรรมการแพทยสภามีเสียงโหวตมากเกินกว่า 60 เสียง จากทั้งหมด 68 เสียง ที่ยืนยันให้ลงโทษทั้ง 3 กรณี” อุปนายกแพทยสภา กล่าว
ทั้งนี้ คาดว่าแพทยสภาจะออกคำสั่งตามมติภายในวันพรุ่งนี้ (13 มิ.ย.68)
สำหรับมติของแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา ระบุให้ตักเตือนแพทย์ 1 ราย และพักใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมของแพทย์อีก 2 ราย ซึ่งเป็นแพทย์จากโรงพยาบาลราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ
ทั้งนี้ แพทยสภาพิจารณาแล้วเห็นว่า ไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ที่ชัดเจนว่าผู้ป่วยอยู่ในภาวะวิกฤติ
สำหรับกรณีแชทไลน์พูดคุยเกี่ยวกับเกี่ยวกับมติแพทยสภาก่อนหน้านี้นั้น ศ.นพ.ประสิทธิ์ ยืนยันว่า ห้องสนทนาดังกล่าวไม่ใช่ไลน์ทางการของแพทยสภา และการตอบ “YES” ไม่ได้มีการแสดงความคิดเห็นหรือให้ข้อมูลพิเศษใดๆ เป็นเพียงการตอบรับเท่านั้น
“ไม่ว่าจะเป็นแพทย์รุ่นใหม่หรือแพทย์รุ่นเก่า ทุกคนได้รับการอบรมสั่งสอนมาเหมือนกัน เข้าใจในจรรยาบรรณวิชาชีพ ความถูกต้อง และการทำงานเหมือนกัน ในวันนี้เราได้ทำตามสิ่งที่เราถูกสอนมา และแพทย์ทั้งหลายที่กำลังศึกษาอยู่ก็ได้รู้ว่ากรณีนี้เป็นกรณีศึกษาที่แสดงให้เห็นว่าบทบาทของแพทย์มีมากมาย นอกจากการรักษาคนไข้แล้ว ยังรวมถึงการรักษามาตรฐานในการดูแลคนไข้ภายใต้หลักการและจรรยาบรรณวิชาชีพ” อุปนายกแพทยสภา กล่าวทิ้งท้าย
ทั้งนี้ก่อนมีการลงมติในวันนี้ แพทยสภาได้รับฟังคำชี้แจงจากนายสมศักดิ์ เกี่ยวกับหนังสือยับยั้งมติ โดยให้เวลาประมาณ 15 นาที