
สภาเดือด! สส. 2 ฝ่ายเถียงเลื่อน-ไม่เลื่อน วาระโหวตนายก “ชัยเกษม” ชิง “อนุทิน”
การประชุมสภาผู้แทนราษฎรเช้าวันนี้เริ่มมีความวุ่นวาย เมื่อพรรคภูมิใจไทยเสนอเลื่อนวาระการโหวตนายกรัฐมนตรีขึ้นมาก่อนกำหนด ขณะที่พรรคเพื่อไทยคัดค้านทันที ท่ามกลางการจับตาศึกดวลระหว่าง “ชัยเกษม นิติสิริ” และ “อนุทิน ชาญวีรกูล”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (5 ก.ย.68) การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 26 ปีที่ 3 ครั้งที่ 20 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) จัดขึ้นเป็นการประชุมพิเศษ โดยมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร นายไชยา พรหมา รองประธานสภาคนที่หนึ่ง และ นายฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาคนที่สอง ขึ้นนั่งบัลลังก์ร่วมกันอย่างพร้อมเพรียง
วาระสำคัญที่หลายคนจับตาคือ เรื่องด่วนวาระที่ 8 เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 159 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย โดยมีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่จะถูกเสนอชื่อในวันนี้ ได้แก่ นายชัยเกษม นิติสิริ จากพรรคเพื่อไทย และ นายอนุทิน ชาญวีรกูล จากพรรคภูมิใจไทย
ตามกระบวนการเลือกนายกรัฐมนตรี ผู้ที่จะได้รับเลือกต้องได้เสียงเกินกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ซึ่งปัจจุบันมี 492 คน หรือไม่น้อยกว่า 247 เสียง และต้องเป็นบุคคลที่พรรคการเมืองเสนอชื่อไว้ต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งก่อนการเลือกตั้งปี 2562 โดยพรรคการเมืองที่เสนอได้ต้องมี สส. ไม่น้อยกว่า 25 คน
ต่อมา เวลา 09:41 น. นางสาวแนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี พรรคภูมิใจไทย ได้เสนอให้เลื่อนวาระการเลือกนายกรัฐมนตรีขึ้นมาพิจารณาก่อน ซึ่งมีผู้รับรองถูกต้อง แต่ นายวัชระพล ขาวขำ สส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย เห็นต่าง โดยย้ำว่าสภาควรพิจารณาตามระเบียบวาระที่บรรจุไว้แล้ว และ สส.ควรมีเวลาไตร่ตรองซึ่งเป็นวาระสำคัญของประเทศ
ขณะที่ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย รักษาราชการแทนรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้ลุกขึ้นอภิปรายว่า ตามประเพณีการลงมติที่ผ่านมา สภาฯ มักเปิดโอกาสให้สมาชิกร่วมอภิปราย เพื่อแสดงความคิดเห็นต่อญัตติ แม้จะเป็นเพียงขั้นตอนการลงมติก็ตาม ฝ่ายค้านเองก็มีสมาชิกที่ต้องการแสดงความคิดเห็นต่อญัตติเรื่องการเลื่อนหรือคงตามระเบียบวาระเดิม พร้อมย้ำว่า ฝ่ายตนมีผู้เตรียมตัวอภิปรายเพื่อสนับสนุนญัติของ สส.วัชระพล
อย่างไรก็ตาม การที่นายจุลพันธ์ เผลอใช้คำว่า “ฝ่ายค้าน” เพื่ออ้างถึงพรรคตัวเอง สร้างบรรยากาศผ่อนคลายในห้องประชุมทันที โดย สส.เพื่อนร่วมพรรคถึงกับหัวเราะ และมีเสียงพูดแซวว่า “ยัง ๆ”
ขณะที่ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา พรรคกล้าธรรม รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อภิปรายสนับสนุนการเลื่อนวาระลงมติโหวตนายกรัฐมนตรี โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า “ผมและเพื่อนสมาชิกที่อยู่พรรคก้าวไกล และมีหัวใจที่อยู่พรรคก้าวไกล อีก 31 ท่าน อยากที่จะร่วมพิจารณา… กล้าธรรม ขอโทษครับ” ก่อนจะรีบแก้ไขชื่อพรรคเป็นพรรคกล้าธรรม พร้อมระบุว่า “เมื่อสักครู่เห็นคุณจุลพันธ์ พรรคเพื่อไทย พูดผิด ตนในฐานะเป็นลูกศิษย์มาก่อน ก็มีโอกาสพูดผิดบ้าง ก็ต้องกราบขอโทษ”
ทั้งนี้ นายวันมูหะมัดนอร์ ประธานในที่ประชุม ได้เปิดให้ สส. อภิปรายเหตุผลที่ควรเลื่อนหรือไม่เลื่อน ฝ่ายละ 5 คน คนละ 5 นาที ก่อนที่จะเปิดให้ลงมติว่า จะเลื่อนวาระการเลือกนายกรัฐมนตรีขึ้นมาพิจารณาก่อนหรือไม่
ในช่วงหนึ่งของการประชุม นายวันมูหะมัดนอร์ ชี้แจงภายหลังถูกพาดพิงว่าเร่งรัดบรรจุวาระการเลือกนายกรัฐมนตรี โดยย้ำว่า ประเทศไม่สามารถอยู่ในสภาวะที่ไม่มีนายกรัฐมนตรีได้ และจำเป็นต้องพิจารณาภายในกรอบเวลา 7 วัน ทั้งนี้ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวด้วยว่า นายกรัฐมนตรี 2 คนที่ผ่านมา ในช่วงที่ตนดำรงตำแหน่งประธานสภาฯ ก็ใช้เวลาในการดำเนินการตามสมควรเช่นเดียวกันกับครั้งนี้
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชาติ อภิปรายว่า ข้อตกลง (MOA) ระหว่างพรรคประชาชนและพรรคภูมิใจไทย โดยเฉพาะเงื่อนไขยุบสภาใน 4 เดือน เป็นการครอบงำและเอื้อประโยชน์ทางการเมือง ทำลายระบอบประชาธิปไตย และอาจขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 49 พร้อมเสนอว่า ควรยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เพราะเข้าข่ายนำไปสู่การยุบพรรคการเมือง
เวลา 11:29 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ลุกขึ้นยืนยันว่า ส.ส.ของพรรคจะอยู่ร่วมเป็นองค์ประชุมในการพิจารณาทุกวาระ ทั้งในวันนี้และในการประชุมครั้งต่อ ๆ ไป
ท่าทีดังกล่าวมีขึ้นภายหลัง นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ได้เรียกร้องต่อที่ประชุม เพื่อให้สมาชิกมีส่วนร่วมสนับสนุนญัตติการเลื่อนวาระการประชุม
อ่านรายงานข่าวที่เกี่ยวข้อง :
คณิตศาสตร์การเมืองเดือด เปิดสมการ 2 ขั้วใหญ่ แข่งปักหมุดจัดตั้งรัฐบาล