ย้อนโครงการ “คนละครึ่ง” สมัยยุคโควิด ก่อนถูก “อนุทิน” หยิบมาปัดฝุ่น

“สิริพงศ์” ยอมรับ “อนุทิน” เตรียมปัดฝุ่นโครงการ “คนละครึ่ง” กระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น จ่อเพิ่มสิทธิประโยชน์ เป็นไปได้ เปิดตัวหลังแถลงนโยบายต่อรัฐสภา


โครงการ “คนละครึ่ง” กำลังกลับมาอีกครั้ง หลังนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 32 มีแนวคิดหยิบโครงการดังกล่าวกลับมา เพื่อใช้เป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น

นายสิริพงศ์ ยอมรับว่า คณะกรรมการบริหารพรรคและทีมนโยบายได้หารือกันจริง และมองว่า “คนละครึ่ง” เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ได้ผล โดยอาจปรับสิทธิประโยชน์ให้มากขึ้นจากเดิม พร้อมย้ำว่า “โครงการในยุคสมัยไหน ถ้าดีแต่ยังมีข้อผิดพลาดอยู่บ้าง เราก็จะนำมาปรับปรุง”

เมื่อเปรียบเทียบกับนโยบาย “เงินดิจิทัล 10,000 บาท” นายสิริพงศ์ มองว่า หากดูจากกระแสในโซเชียลและสื่อต่าง ๆ ที่เผยแพร่ไปในช่วงเช้า ก็ดูเหมือนว่าคนส่วนใหญ่ยังให้การตอบรับ “คนละครึ่ง” ดีกว่า แม้งบประมาณที่ใช้จะไม่มากเท่า แต่ผลลัพธ์ด้าน “ความรู้สึกของประชาชน” และการหมุนเวียนเงินในระบบเศรษฐกิจกลับชัดเจนกว่า

นายสิริพงศ์ ยังระบุว่า หากนายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้วและสั่งการ ก็สามารถเดินหน้าได้ทันที โดยแนวทางใหม่จะไม่เน้นลงทุนสร้างแอปพลิเคชันเพิ่มเติม แต่จะใช้ระบบของรัฐที่มีอยู่แล้วให้เกิดประโยชน์สูงสุด

จากโครงการโควิดสู่การปัดฝุ่นใหม่

คนละครึ่ง” ถือกำเนิดขึ้นในปี 2563 สมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อรับมือกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 จุดประสงค์สำคัญคือกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย ลดภาระค่าครองชีพประชาชน และเพิ่มสภาพคล่องให้กับร้านค้ารายย่อย

รัฐบาลในขณะนั้นใช้งบจาก พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา-19 เมื่อ พ.ศ.2563 วงเงินรวม 1.5 ล้านล้านบาท โดยจัดสรรสำหรับโครงการคนละครึ่ง 5 เฟส วงเงินรวม 234,500 ล้านบาท ดำเนินการต่อเนื่องตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 ถึงตุลาคม 2565

กลไกโครงการคือ รัฐช่วยออกค่าใช้จ่ายครึ่งหนึ่งในการซื้อสินค้ากับร้านค้าที่เข้าร่วม ประชาชนได้รับสิทธิใช้จ่าย ตามจำนวนที่กำหนดในแต่ละเฟส ได้แก่ เฟส 1 มูลค่า 4,000 บาท , เฟส 2 มูลค่า 3,500 บาท , เฟส 3 มูลค่า 3,000 บาท, เฟส 4 มูลค่า 1,200 บาท  และเฟส 5 มูลค่า 800 บาท

ความท้าทายเวอร์ชัน “อนุทิน”

การที่รัฐบาลใหม่หยิบ “คนละครึ่ง” มาปัดฝุ่นอีกครั้ง สะท้อนความพยายามสร้างมาตรการที่จับต้องได้ทันที แต่คำถามสำคัญคือ จะปรับอย่างไรให้เหมาะกับสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน ซึ่งต่างจากยุคโควิด ทั้งในแง่กำลังซื้อ ภาระการคลัง และความคาดหวังของสังคม

หากเดินหน้าได้จริง “คนละครึ่ง เวอร์ชันอนุทิน” จะไม่เพียงเป็นนโยบายสัญลักษณ์ แต่ยังเป็นบททดสอบความสามารถของรัฐบาลใหม่ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วและตรงจุด ภายใต้เวลา 4 เดือน ตามข้อตกลงกับพรรคประชาชน

Back to top button