“เอกนิติ” ตั้งเป้าฟื้นหาดใหญ่สู่ “สมาร์ทซิตี้” ภาคใต้ – ธปท. ชี้น้ำท่วมใหญ่ฉุดจีดีพี 0.2%
รองนายกฯ “เอกนิติ” ระบุ “คนละครึ่งพลัส” ช่วยเม็ดเงินกระจายวงกว้าง ยอมรับเฟส 2 ต้องพิจารณางบประมาณใหม่หลังเกิดน้ำท่วมใหญ่ภาคใต้ พร้อมเล็งยกระดับอำเภอหาดใหญ่เป็นสมาร์ทซิตี้รับการฟื้นฟูระยะยาว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (1 ธ.ค.68) นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “คู่หูเศรษฐกิจ ฝ่าวิกฤตสู่ความยั่งยืน” (“Fiscal-Monetary Synergy in Sight”) จัดโดย สมาคมเศรษฐศาสตร์ธรรมศาสตร์ ว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น “คนละครึ่ง พลัส” ช่วยให้เม็ดเงินกระจายสู่ภูมิภาคถึง 83% ส่วนกรุงเทพฯ อยู่ที่ 17% สะท้อนประโยชน์ที่ตกแก่ประชาชนต่างจังหวัดอย่างกว้างขวาง ขณะเดียวกัน รัฐบาลร่วมมือธนาคารออมสินจัดอบรมการทำบัญชี และกระทรวงพาณิชย์ยกระดับพ่อค้าแม่ค้าสู่แพลตฟอร์มออนไลน์ แม้เป็นมาตรการสั้น แต่หวังผลยาวในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก
ทั้งนี้ การพิจารณา “คนละครึ่ง พลัส เฟส 2” ยอมรับว่า ต้องขอพิจารณาว่าจะจัดสรรเงินอย่างไร เพราะขณะนี้มีปัญหาเรื่องช่วยน้ำท่วมภาคใต้
นายเอกนิติ ระบุว่า เหตุอุทกภัยอำเภอหาดใหญ่ไม่ส่งผลกระทบต่อจีดีพี (GDP) อย่างมีนัยสำคัญ แต่กระทบต่อคุณภาพชีวิตประชาชนอย่างรุนแรง หลังลงพื้นที่พบความเสียหายต่อบ้านเรือน ร้านค้า และทรัพย์สินจำนวนมาก รัฐบาลจึงเร่งเดินหน้ามาตรการเยียวยา พร้อมสนับสนุนให้ธนาคารของรัฐและธนาคารพาณิชย์ ปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เพื่อใช้ซ่อมแซมบ้าน ร้านค้า และโรงงาน
รัฐบาลยังเตรียมมาตรการฟื้นฟูระยะยาวให้อำเภอหาดใหญ่ โดย “เติมออกซิเจน” ผ่านเงินทุนและมาตรการสนับสนุนต่าง ๆ พร้อมนำบทเรียนครั้งนี้ไปใช้ในการออกแบบระบบป้องกันและพัฒนาเมือง โดยตั้งเป้ายกระดับหาดใหญ่สู่ “สมาร์ทซิตี้” คล้ายโมเดลเมืองปีนังของมาเลเซีย ซึ่งโดดเด่นด้านอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ โดยอาศัยศักยภาพมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ในการพัฒนาบุคลากร
สำหรับการประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) วันนี้ รัฐบาลเตรียมบูรณาการนโยบายออกเป็นแพ็กเกจช่วยเหลือ SMEs ผ่านโครงการค้ำประกันสินเชื่อซอฟต์โลน ควบคู่กับโครงการ “พี่ช่วยน้อง” ที่ดึงบริษัทจดทะเบียนเข้ามาช่วยเชื่อมโยงผู้ประกอบการเข้าสู่ซัพพลายเชน พร้อมให้คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ (BOI) สนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์สมัยใหม่และอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร รวมถึงผลักดันหลักสูตรทักษะสั้น เพื่อให้แรงงานไทยสามารถประกอบอาชีพและรองรับการลงทุนเทคโนโลยีใหม่ได้ทันที
ด้านนายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ระบุว่า อุทกภัยอำเภอหาดใหญ่เป็นปัญหาสำคัญ ซึ่งมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจในพื้นที่ราว 0.1–2% ของ GDP แม้สัดส่วนเศรษฐกิจจังหวัดอยู่ที่ 2.6% ของ GDP ทั้งประเทศ แต่ผลกระทบต่อประชาชนมีความรุนแรง จึงไม่ควรใช้เกณฑ์จัดชั้นลูกหนี้ปกติในครั้งนี้
ธปท. เตรียมออกแพ็กเกจช่วยเหลือที่สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล โดยสมาคมธนาคารไทยพร้อมสนับสนุน ทั้งการลดเงินต้นและลดดอกเบี้ยเป็นศูนย์ สำหรับพื้นที่ประสบภัย 9 จังหวัด อีกทั้ง ธปท. อยู่ระหว่างพิจารณาปรับระบบค้ำประกันสินเชื่อใหม่ เพื่อขยายความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.)

