PRTR เปิดเทรนด์บริหารบุคลากรปี 67 สะท้อนภาพผู้นำ “Total HR Solutions”

PRTR เปิดเทรนด์การบริหารบุคลากรปี 67 ตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจด้าน “Total HR Solutions” ชี้ ความสำคัญในการทรานส์ฟอร์ม “คน” เป็น “Key Driver” ความสำเร็จของธุรกิจ


นางสาวริศรา เจริญพานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีอาร์ทีอาร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ PRTR เปิดเผยถึงเทรนด์การบริหารบุคลากรปี 2567 โดยระบุว่า ในทุกวันนี้ไม่มีองค์กรไหนไม่รู้จักคำว่า Business Transformation และองค์กรส่วนใหญ่ที่พยายาม Transform มักให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนระบบ หรือนำเทคโนโลยีล้ำสมัยมาใช้ แต่มองข้ามความสำคัญของการ Transform “คน” ทำงานไปพร้อมๆ กัน จนเกิดช่องว่างของทักษะ (Skill Gap) พนักงานขาดทักษะที่จำเป็นที่จะขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง จนทำให้การ Transform นั้นไม่สำเร็จ สอดคล้องกับข้อมูลจากรายงาน Future of Job Report 2023 โดย World Economic Forum (WEF) ที่ชี้ให้เห็นว่า ปัญหาการขาดคนทำงานที่มีทักษะและศักยภาพที่จำเป็น และการไม่สามารถดึงดูดคนเก่งเข้ามาทำงาน ถูกโหวตเป็น 2 อันดับสูงสุดของอุปสรรคที่ทำให้องค์กรเปลี่ยนแปลงไม่ได้

โดยองค์กรที่ transform สำเร็จ ไม่ได้เกิดขึ้นแค่เพราะมีเทคโนโลยีล้ำสมัยและแผนธุรกิจที่เข้มแข็ง แต่มีคนที่มีทักษะที่ตอบโจทย์ความความต้องการของโลกการทำงานที่เปลี่ยนไป สามารถขับเคลื่อน ใช้งาน และต่อยอดวิสัยทัศน์ รวมทั้งเป้าหมายขององค์กรได้

นางสาวริศรา กล่าวว่า วิธีที่จะมีคนทำงานที่เก่งและใช่ มีทักษะที่ทันโลกอยู่ในองค์กร ได้แก่ 1.การดึงดูดคนเก่งเข้ามาร่วมงาน 2.การรักษาคนเก่งที่มีอยู่ในมือไว้ 3.การสร้างหรือพัฒนาคนเก่าให้เก่งขึ้น โดยทั้ง 3 วิธีล้วนต้องอาศัยการออกแบบหลักสูตร อบรม (training) และแผนการพัฒนาบุคลากรที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งจะ Transform คนได้สำเร็จ องค์กรต้องออกแบบการเทรนนิ่งให้เหมาะกับพฤติกรรมของคนทำงานยุคใหม่

ทั้งนี้ ในยุคที่ทุกอย่างเร็ว หลากหลาย เข้าถึงง่าย รูปแบบการเทรนนิ่งก็ต้องปรับเปลี่ยนเช่นกัน องค์กรต้องเข้าใจพฤติกรรมผู้เรียน และวางแผนการเรียนรู้ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย ตามเทรนด์การเรียนรู้ของคนเปลี่ยนไป

โดยข้อมูลจาก SHRM พบว่า ในปี 2023 สัดส่วน 62% ของผู้เรียน ชอบการเรียนรู้แบบผสมผสาน (hybrid) ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ มากกว่าการเทรนนิ่งที่จำกัดแค่รูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ประกอบด้วย 1.โฟกัสกับเนื้อหาที่ สั้น กระชับ ใช้เวลาไม่นาน และใช้งานต่อได้ทันที (micro-learning) มากขึ้น 2.มุ่งเน้นการเทรนนิ่งที่สามารถออกแบบตามความต้องการของพนักงานแต่ละคนได้มากขึ้น (personalised) 3.เพิ่มการเรียนรู้ที่ทำให้พนักงานได้มีส่วนร่วมกับกลุ่มหรือมีปฏิสัมพันธ์แลกเปลี่ยนกับผู้อื่น (social learning) โดยเร่งสร้างทักษะการคิดเชิงวิเคราะห์และการแก้ปัญหาให้พนักงาน รับมือความเปลี่ยนแปลงของโลกใหม่

ขณะที่ World Economic Forum (WEF) รายงานว่า องค์กร 44% คาดการณ์ว่าในอีก 5 ปี ทักษะที่จำเป็นต่อการทำงานจะถูก disrupt และเปลี่ยนไป อย่างไรก็ตาม Analytical Thinking เป็นทักษะที่ถูกให้ความสำคัญมากขึ้นอย่างต่อเนื่องจนขึ้นแท่นอันดับหนึ่ง สะท้อนความต้องการความสามารถในการคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหา อย่างมีประสิทธิภาพในการทำงาน

โดยหลากหลายแหล่งข้อมูลที่ศึกษาเทรนด์ของทักษะที่จำเป็นต่อการทำงานในโลกยุคใหม่ ทั้ง World Economic Forum (WEF), Forbes, E-Learning Industry, Coursera, Havard Business Review, HR Forecast, และ LinkedIn Learning พบว่า 10 ทักษะที่องค์กรมองว่าพนักงานต้องมี ถูกจัดอันดับและให้ความสำคัญสูงสุด เป็น Future of Work 2023 – 2027

ได้แก่ 1.Critical Thinking ทักษะการคิดเชิงวิพากษ์ 2.Digital Literacy ทักษะความเข้าใจและใช้เทคโนโลยีดิจิทัล 3. Interpersonal Skill ทักษะการสื่อสารระหว่างบุคคล 4. Emotional Intelligence ความฉลาดทางอารมณ์ 5. Creative Thinking ความคิดสร้างสรรค์ 6. Leadership Skills ทักษะของผู้นำ 7. Problem Solving ทักษะการแก้ปัญหา 8. Adaptability ทักษะการปรับตัว 9. Teamwork การทำงานเป็นทีม 10. Resilience ทักษะในการรับมือกับความไม่แน่นอนด้วยความยืดหยุ่น โดยเปิดโอกาสให้พนักงานได้เลือกเรียนสิ่งที่สนใจ คือกุญแจในการปิด Skill Gap และพัฒนาตัวเองให้ตอบโจทย์เป้าหมายขององค์กร

โดยการเลือกเสริมทักษะพื้นฐานของพนักงานรายบุคคลนี้ เป็นไปเพื่อพัฒนาให้ตนเองสามารถตอบโจทย์ความคาดหวังขององค์กรในภาพใหญ่ และต่อยอดไปสู่การเชี่ยวชาญในสกิลที่เป็นที่ต้องการได้ดียิ่งขึ้น

“องค์กรอาจมองเห็นในภาพกว้างได้ชัดเจนกว่า ว่าต้องเพิ่มเติมให้พนักงานมีทักษะด้านใดเพื่อให้ธุรกิจทันโลกและการเปลี่ยนแปลง แต่ในขณะเดียวกัน ก็ต้องมีพื้นที่และตัวเลือกให้พนักงานได้เลือกและเรียนรู้ในสิ่งที่แต่ละคนมองว่าจำเป็นต่อการเติบโตและทำงานของตัวเองเช่นกัน” นางสาวริศรา กล่าว

ทั้งนี้ PRTR มีบริการเทรนนิ่งพนักงาน ภายใต้แบรนด์ “The Blacksmith” จัดหลักสูตรอบรมพนักงานทั้งในรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์ ตอบโจทย์เทรนด์การเรียนรู้แบบ Integrated Learning โดยแพลตฟอร์มที่ “The Blacksmith” มีพัฒนาขึ้นใหม่ มีคอร์สออนไลน์ที่ตอบโจทย์คนทำงานให้เลือกเรียนกว่า 300 คอร์ส ครอบคลุมทั้ง Soft Skills และ Hard Skills โดยเน้นการออกแบบเนื้อหาให้สั้น กระชับ และมี Summary Sheet สรุปเนื้อหาสำคัญให้ผู้เรียนใช้ทบทวนได้ง่ายๆ

สำหรับองค์กรที่ต้องการพาร์ทเนอร์ในการวางแผนพัฒนาบุคคล The Blacksmith และ L&D Consultant พร้อมให้คำปรึกษาและวาง road map การเรียนรู้ร่วมกับองค์กร เพื่อสร้างความมั่นใจว่าได้ออกแบบการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงให้พนักงานและองค์กรได้อย่างแท้จริง ทั้งนี้ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://business.theblacksmith.io

Back to top button