“บีเคพี” จับมือรัฐ-คู่ค้า ร่วมลดปัญหา “PM 2.5”

“บีเคพี” จับมือภาครัฐ-คู่ค้าธุรกิจ และเกษตรกร ลุยใช้ “เทคโนโลยีภาพถ่ายดาวเทียม” ยุติการเผาแปลง หวังร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการลดปัญหาฝุ่น “PM 2.5” ผ่านโครงการ “Partner To Green คู่ค้าข้าวโพดพันธมิตร พิชิตหมอกควัน" พร้อมเปิดช่องทางแจ้งร้องเรียนการเผาแปลง ผ่านแอป “ฟ.ฟาร์ม”


บริษัท กรุงเทพโปรดิ๊วส จำกัด (มหาชน) หรือ บีเคพี ผู้จัดหาวัตถุดิบอาหารสัตว์ให้ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ (CPF) ร่วมมือกับทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน คู่ค้าผู้รวบรวมผลผลิต และเกษตรกร เพื่อดำเนินการป้องกันการเผาตอซังเชิงรุกในช่วงการเตรียมแปลงปลูก เพื่อร่วมลดสาเหตุปัญหาฝุ่น PM 2.5 ผ่านโครงการ “Partner To Green คู่ค้าข้าวโพดพันธมิตร พิชิตหมอกควัน”  นำเทคโนโลยีภาพถ่ายดาวเทียมมาช่วยป้องกันและลดการเผาแปลงข้าวโพด ภายในห่วงโซ่อุปทานของบริษัทให้เป็นศูนย์  พร้อมเปิดช่องทางให้ประชาชนแจ้งร้องเรียนการเผาแปลงผ่านแอป “ฟ.ฟาร์ม” ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 เชิงรุกอย่างยั่งยืน

โดยโครงการ “Partner To Green คู่ค้าข้าวโพดพันธมิตร พิชิตหมอกควัน” เป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้รวบรวมผลผลิตในรูปแบบ Public- Private Partnership เพื่อช่วยกันกำกับดูแลห่วงโซ่อุปทานข้าวโพดเลี้ยงสัตว์มีความรับผิดชอบ ดูแลสิ่งแวดล้อม และสุขภาพของประชาชน ตามนโยบายของเครือซีพี ไม่รับและไม่นำเข้าผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากพื้นที่รุกป่า และพื้นที่ที่มาจากการเผาแปลง โดยบริษัทฯ แบ่งปันข้อมูลจุดความร้อนจากภาพถ่ายดาวเทียม ให้คู่ค้าธุรกิจได้เข้าถึงข้อมูลการเผาแปลงเป็นระบุรายแปลง หากพบเพื่อให้เจ้าหน้าที่บริษัทฯ และคู่ค้าสามารถเร่งลงพื้นที่พบเพื่อพูดคุยกับเกษตรกรเพื่อยืนยันจุดเผา และหากพบว่าเป็นพื้นที่มีการเผาซ้ำ จะมีมาตรการหยุดรับซื้อข้าวโพดจากแปลงดังกล่าวเป็นเวลา 1 ปี

ขณะเดียวกัน กรุงเทพโปรดิ๊วสยังส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน ได้เข้ามามีส่วนช่วยเฝ้าระวังการเผาแปลงของเกษตรกร  โดยเปิดช่องทางการร้องเรียนพบการเผาแปลงข้าวโพด ผ่านแอปพลิเคชั่น “ฟ.ฟาร์ม” เจอเผาแปลง แจ้งแอป ฟ.ฟาร์ม หรือแจ้งผ่านเว็บไซต์ระบบตรวจสอบย้อนกลับข้าวโพด

สำหรับความร่วมมือเพื่อช่วยกันยุติปัญหาฝุ่นควัน  เป็นการต่อยอดจากระบบตรวจสอบย้อนกลับข้าวโพด (Corn Traceability) ที่กรุงเทพโปรดิ๊วสพัฒนาและใช้สำหรับการจัดหาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตั้งแต่ปี 2559 โดยมีการบันทึกข้อมูลสำคัญของเกษตรกรในรูปแบบดิจิทัล พร้อมทั้งพิกัดดาวเทียมแปลงปลูก สามารถยืนยันได้ว่าข้าวโพดที่จัดหามาจากพื้นที่มีเอกสารสิทธิ์ที่ถูกต้องตามกฎหมายไม่ได้มาจากพื้นที่บุกรุกป่า รวมถึง วิธีการปลูก การขนส่งจากแปลงปลูกจนถึงโรงงานอาหารสัตว์ พร้อมทั้งยังได้นำเทคโนโลยีบล็อกเชนเพิ่มความน่าเชื่อถือและความโปร่งใสของข้อมูล

นอกจากการกำกับดูแลเพื่อหยุดการเผาแปลง เพื่อลดต้นเหตุของฝุ่นควันและหมอกควันแล้ว กรุงเทพโปรดิ๊วสยังได้ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ สนับสนุนถ่ายทอดองค์ความรู้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดยกระดับสู่การเพาะปลูกตามมาตรฐานแนวทางการปฏิบัติทางการเกษตร GAP เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปลูกและปลอดเผาแปลง รวมถึงพัฒนาแอปพลิเคชั่น “ฟ.ฟาร์ม” เป็นผู้ช่วยเกษตรกรในการปลูกข้าวโพด สามารถเข้าถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการเพิ่มประสิทธิภาพ เช่น ปริมาณน้ำฝน อุณหภูมิ คำแนะนำการใช้ปุ๋ย ช่วยเกษตรกรมีผลผลิตและรายได้สูงขึ้น และขับเคลื่อนห่วงโซ่การผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่รับผิดชอบต่อโลก

โดยระบบตรวจสอบย้อนกลับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ พัฒนาขึ้นมาใช้ตั้งแต่ปี 2559 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่มีการจัดหาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เป็นวัตถุดิบหลักทางเกษตร ที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งปลูกได้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคว่าอาหารที่ต้นทางไม่ได้ตัดไม้ทำลายป่า และเผาแปลง มีส่วนร่วมแก้ปัญหาหมอกควัน และฝุ่น PM 2.5 และร่วมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ ปัจจุบัน มีเกษตรกรปลูกข้าวโพดกว่า 40,000 ราย และพ่อค้าพืชไร่  เป็นผู้รวบรวมข้อมูลเกษตรกร อีกกว่า 600 รายมาลงทะเบียนซื้อขายผลผลิตผ่านระบบตรวจสอบย้อนกลับ ครอบคลุมพื้นที่ปลูก ข้าวโพดกว่า 2 ล้านไร่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อการจัดหาวัตถุดิบทางการเกษตรอย่างรับผิดชอบของกรุงเทพโปรดิ๊วส และซีพีเอฟที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้มาจากแหล่งผลิตที่มีเอกสารสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่บุกรุกพื้นที่ป่า โดยกรุงเทพโปรดิ๊วส ยังได้ขยายผลการนำระบบตรวจสอบย้อนกลับข้าวโพดไปใช้ใน 7 ประเทศ ได้แก่ ลาว, กัมพูชา, เวียดนาม, เมียนมา, ฟิลิปปินส์, อินเดีย และบังคลาเทศ โดย กรุงเทพโปรดิ๊วสตั้งเป้าที่จะจัดทำการบันทึกข้อมูลแบบดิจิทัล ในการจัดหาข้าวโพดจากเมียนมาภายในปีนี้อีกด้วย

Back to top button