PTTGC ฟื้นตัวไตรมาส 4 กลับเข้าจุดปกติปีหน้าโบรกฯยังแนะซื้อ เชื่อผ่านจุดต่ำสุด Q3/58 แล้ว

โบรกฯคาด PTTGC Q3/58 อ่อนตัว ก่อนฟื้นปลายปี เชื่อปีหน้ากลับสู่จุดปกติ ยังแนะนำซื้อ เป้า 68 บ.


บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคาะห์ (28 ต.ค.) คาดว่า บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC จะรายงานกำไรในไตรมาส 3 ปี 2558 อ่อนตัวลง แม้ว่าในไตรมาสนี้เม็ดพลาสติก PE มีส่วนต่างราคาลดลงเล็กน้อยอยู่ที่ระดับ $774 จากระดับ $812 ในไตรมาสก่อนทำให้ธุรกิจปิโตรเคมีสายโอเลฟินส์ยังมีกำไรที่ดีอยู่ แต่ธุรกิจโรงกลั่นอ่อนตัวลงหลังค่าการกลั่นปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมันดีเซลและน้ำมันดูไบ ธุรกิจปิโตรเคมีสายอะโรเมติกส์แย่ลงจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ที่แย่ลงและการปิดซ่อมบำรุง

ขณะที่บริษัทจะมีการบันทึกผลขาดทุนจาก stock loss รวมกว่า 2.8 พันล้าน (จากธุรกิจโรงกลั่น 2 พันล้านและจากธุรกิจปิโตรเคมีอีก 800 ล้าน) หลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงแรง (จาก $61 มาอยู่ที่ $46 ต่อบาเรล) นอกจากนี้ PTTGC ยังมีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนรวมกว่า 2.2 พันล้านบาท ส่งผลให้กำไรในไตรมาส 3 ปี 2558 โดยรวมอ่อนตัวลงอยู่ที่ 1,708 ล้านบาท (ลดลง 81% จากไตรมาสก่อน และลดลง 77.5% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน)

 

ทั้งนี้ คาดกำไรของ PTTGC ได้ผ่านจุดต่ำสุดของปีไปแล้วในไตรมาส 3 ปี 2558 ขณะที่ในช่วงไตรมาส 4 ปี 2558 บริษัทมีแนวโน้มกำไรกลับมาเติบโตในระดับสูงอีกครั้งจากการฟื้นตัวของค่าการกลั่นและการหายไปของรายการ stock loss และขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนขณะที่ส่วนต่างราคาของปิโตรเคมีน่าจะยังทรงตัวได้ในระดับสูงจนถึงปีหน้า อย่างไรก็ตามผลกำไรของ PTTGC รอบครึ่งปีแรกของปี 2558 ที่ผ่านมาอยู่ที่ 14,605 ล้านบาท คิดเป็นเพียง 48.5% ของประมาณการกำไรเดิม

ขณะที่ผลประกอบการมีแนวโน้มอ่อนตัวลงในไตรมาส 3/58 ถึงแม้ว่าในช่วงปลายปีจะมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นมาได้อย่างแข็งแกร่งแต่ไม่น่าจะถึงเป้าหมายได้จากผลขาดทุน stock loss และขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งปีที่สูงกว่าที่คาดเบื้องต้น จึงได้ปรับประมาณการของปีนี้ลงเป็น 25,078 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 66.8% จากปีก่อน) เติบโตอย่างแข็งแกร่งจากฐานที่ต่ำในปีที่แล้ว ขณะที่ในปีหน้าธุรกิจปิโตรเคมีสายโอเลฟินส์จะเป็นกลไกหลักในการผลักดันกำไรของ PTTGC เติบโตอย่างแข็งแกร่งเข้าใกล้ระดับ 3 หมื่นล้านบาท (เพิ่มขึ้น 19.4%)

 

คงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ PTTGC เนื่องจากเห็นว่าจุดต่ำสุดของบริษัทได้ผ่านไปแล้วในไตรมาส 3 ปี 2558 ขณะที่กำไรทั้งปีมีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่งจากการฟื้นตัวช่วงปลายปี ทั้งนี้ได้ปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 68 บาท (EV/EBITDA) ตามประมาณการที่ปรับลง โดยมองว่าราคาหุ้นมี downside ที่จำกัดจากวงเงินซื้อหุ้นคืนที่ยังไม่ได้ใช้ตั้งแต่เริ่มโครงการ

Back to top button