DCC อุปสงค์กระเบื้องเซรามิคในไทยฟื้นแนะซื้อเก็งกำไรเป้าหมายใหม่ 4.6 บาท

DCC เคยกล่าวถึงเมื่อรายงานฉบับก่อนหน้าว่า หากอุปสงค์กระเบื้องเซรามิคในไทยฟื้นตัวกลับมาดีขึ้นอีกครั้ง อาจส่งผลให้มีการปรับคำแนะนำ และหลังจากที่เราได้เห็นสัญญาณการปรับตัวขึ้นของอุปสงค์ของกระเบื้อง เราจึงทำการปรับคำแนะนำสำหรับ DCC เป็น ซื้อเก็งกำไร (จาก ขาย) ด้วยราคาเป้าหมายใหม่ ณ สิ้นปี 2559 ที่ 4.6 บาท/หุ้น (จาก 4.0 บาท) เพื่อสะท้อนการเพิ่มขึ้นของผลประกอบการ (บริษัทได้ประโยชน์ค่อนข้างมากจากราคาน้ำมันที่ลดลง) และให้สอดคล้องกับการประเมินมูลค่าแบบคิดลดเงินปันผล (DDM) (อัตราคิดลด 8.6% และ terminal growth 1%) ปัจจัยกระตุ้นในระยะสั้นได้แก่ การเติบโตของกำไรสุทธิที่แข็งแกร่งในไตรมาส 4/58-1/59


บล.บัวหลวง ระบุในบทวิเคราะห์ (24 ธ.ค.) ว่า บริษัท ไดนาสตี้เซรามิค จำกัด (มหาชน) หรือ DCC ปริมาณขายกระเบื้องเซรามิคในไทยได้แตะจุดต่ำสุดไปแล้วในเดือนส.ค.2558 ที่ 12.9 ล้าน ตร.ม.ซึ่งเป็นตัวเลขยอดขายที่ต่ำที่สุดตั้งแต่ปี 2553 โดยลดลง 11% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 5% เทียบเดือนก่อนหน้า ที่น่าแปลกใจคือ ถึงแม้ว่าจะอยู่ในช่วงโลว์ซีซั่น แต่ปริมาณขายกระเบื้องกลับมีสัญญาณการฟื้นตัว โดยเพิ่มขึ้น  4% เทียบเดือนก่อนหน้า อยู่ที่ 13.5 ล้านตร.ม.ในเดือนก.ย. และเพิ่มขึ้น 3% เทียบเดือนก่อนหน้า ที่ 13.9 ล้านตร.ม. ในดือนต.ค.

ดังนั้นอุปสงค์ของอุตสาหกรรมในช่วงไตรมาส 4/58 นั้นคาดทรงตัว เทียบไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งดีกว่าตัวเลขในอดีตที่อุปสงค์ในช่วงนี้มักจะปรับตัวลดลงมากกว่า 2-5% เทียบไตรมาสก่อนหน้า ส่วนอุปสงค์ของอุตสาหกรรมในปี 2558 นั้นคาดลดลง 4% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่ 168 ล้านตร.ม. เราคาดอุปสงค์เติบโต 2% ในปี 2559 อ้างอิงจากอัตราการเติบโตเฉลี่ยตั้งแต่ปี 2548-2557 แนวโน้มของอุปสงค์ตั้งแต่เดือนม.ค.-มี.ค. 2559 คาดขยายตัว เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และ เทียบไตรมาสก่อนหน้า จากผลของฤดูกาลและฐานที่ต่ำในไตรมาส 1/58

ปรับเพิ่มประมาณการกำไรหลักปี 2559 ขึ้น 2% สะท้อนการลดลงของราคาพลังงาน (ก๊าซธรรมชาติ)  โดยราคาของก๊าซธรรมชาตินั้นคิดเป็น 30% ของต้นทุนการผลิตของบริษัท (เป็นสัดส่วนต้นทุนที่สูงที่สุด) และราคาก๊าซนั้นมักอ้างอิงอยู่กับราคาน้ำมันดิบซึ่งจะมีการปรับทุกไตรมาสหรือทุก 6 เดือน (ขึ้นอยู่กับแหล่งผลิต) เราคาดว่า ราคาต้นทุนค่าก๊าซธรรมชาติลดลง 24% QTD และ 36% YTD อยู่ที่ประมาณ 37 เหรียญดอลลาร์/บาร์เรล เราคาดว่า ราคาน้ำมันจะลดลงอีกในอนาคตโดยเฉพาะในปี 2559 ซึ่งจะช่วยหนุนอัตรากำไรและกำไรสุทธิของบริษัท เราปรับเพิ่มประมาณการอัตรากำไรขั้นต้นปี 2559 จาก 42.5% เป็น 43.0% เพิ่มขึ้น 0.5% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน

คาดกำไรหลักไตรมาส 4/58 อยู่ที่ 296 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 8% เทียบไตรมาสก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นมากที่ 58% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนเนื่องจากบริษัทมีค่าใช้จ่ายพิเศษ 104 ล้านบาท จากค่าความนิยมติดลบในไตรมาส 4/57 แต่ไม่มีรายการดังกล่าวในไตรมาส 4/58 ปริมาณขายในไตรมาส 4/58 คาดทรงตัว เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 4% เทียบไตรมาสก่อนหน้า อยู่ที่ 1.6 พันล้านบาท อัตรากำไรขั้นต้นคาดปรับตัวดีขึ้น 1.9% เทียบไตรมาสก่อนหน้า จากต้นทุนพลังงานที่ต่ำลง (ราคาก๊าซ) บริษัทยังสามารถควบคุมอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายได้ค่อนข้างดี เราคาดอัตราเงินปันผลต่อหุ้นอยู่ที่ 0.045 บาทจากผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/58 คาดขึ้นเครื่องหมาย XD ในเดือนมี.ค. 2559 และจ่ายในเดือนเม.ย.2559

คาดผลประกอบการกลับมาแข็งแกร่งในไตรมาส 1/59 จากผลของฤดูกาล โดยตามปกติยอดขายและกำไรในช่วงเดือนม.ค.-มี.ค.มักสูงที่สุด โดยคิดเป็น 30% ของกำไรทั้งปี ปริมาณขายและกำไรในไตรมาส 1/59 น่าจะปรับตัวสูงขึ้น เทียบไตรมาสก่อนหน้า จากผลของฤดูกาลและ เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน จากแนวโน้มของธุรกิจที่ดีขึ้น โดยหากบริษัทจ่ายเงินปันผล 100% เป็นเงินสด เราคาดอัตราปันผลต่อหุ้นอยู่ที่ 0.063 บาทสำหรับไตรมาส 1/59 ขึ้นเครื่องหมาย XD และจ่ายในเดือนพ.ค.2559

Back to top button