SET ปิดเช้าบวก 2 จุด แรงซื้อ “พลังงาน-แบงก์” หนุน โบรกชี้บ่ายไซด์เวย์รอปัจจัยใหม่

นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้าที่ผ่านมาแกว่งไซด์เวย์ เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาสนับสนุน แม้วานนี้การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะออกมาตรการช่วยเหลือลดค่าครองชีพประชาชน แต่ก็ไม่ได้ส่งผลบวกต่อหุ้นกลุ่มค้าปลีกมากนัก เนื่องจากนักลงทุนเริ่มกังวลอัตราเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มสูงขึ้น โดยล่าสุดกระทรวงการคลังคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อปีนี้จะสูงขึ้นไปถึง 5-7% จากราคาน้ำมันสูง กดดันต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจและภาพของการลงทุน

ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้าที่ผ่านมาเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ โดยเป็นการเวียนกลุ่มเล่น จากหุ้นธุรกิจดั้งเดิม มาเป็นหุ้นกลุ่ม High growth เช่น เทคโนโลยี หลังจากราคาปรับลงไปค่อนข้างมาก ขณะที่มองว่าจะได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อน้อยกว่าหุ้นกลุ่มอื่น

สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่าย นายกรภัทร คาดว่า ตลาดฯ น่าจะยังแกว่งไซด์เวย์ต่อไป โดยแนะลงทุนในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และกลุ่มที่ป้องกันเงินเฟ้อได้ อย่าง JMT, JMART, KCE, โรงกลั่น, โรงพยาบาล และ ICT เป็นต้น

ทั้งนี้ให้แนวรับไว้ที่ 1,660-1,670 จุด และแนวต้าน 1,685 จุด

ขณะเดียวกันนายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นทั่วโลก เนื่องจากตลาดตอบรับข่าวการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไปแล้ว ขณะที่ตลาดหุ้นบ้านเรา ในข่วง 2 วันที่ผ่านมามีแรงขายในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ค่อนข้างมาก จาก S&P ปรับลดอันดับเครดิตธนาคารพาณิชย์ลง แต่เริ่มเห็นการซื้อคืนในช่วงท้ายตลาดเมื่อวานนี้ ทำให้ภาพของการลงทุนในวันนี้นักลงทุนกลับเข้ามาซื้อหุ้นธนาคารพาณิชย์ โดยมีแรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (Bond Yield) ที่ปรับตัวขึ้น 2.4% ตอกย้ำดอกเบี้ยอยู่ในข่วงขาขึ้น ส่งผลดีต่อผลประกอบการของธนาคารพาณิชย์ดีตามไปด้วย ส่วนกลุ่มพลังงานก็ยัคงสอดรับกับราคาน้ำมันดิบ

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,909.46 ล้านบาท ปิดที่ 160.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท

EA มูลค่าการซื้อขาย 1,224.11 ล้านบาท ปิดที่ 93.25 บาท ลดลง 0.25 บาท

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,144.76 ล้านบาท ปิดที่ 65.25 บาท ลดลง 0.75 บาท

KCE มูลค่าการซื้อขาย 1,053.96 ล้านบาท ปิดที่ 66.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,033.28 ล้านบาท ปิดที่ 39.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท