ข้อตกลง

วันนี้ (18 มิ.ย.68) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยถึงการปรับคณะรัฐมนตรี โดยยืนยันว่าไม่มีเส้นตาย 48 ชั่วโมง ตามที่เกิดกระแสข่าวออกมา ต่อเนื่องจากนั้น นายอนุทิน เล่าเปิดเผยถึงการพบกับนพ.พรหมมินทร์ เลิศสุรีย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในช่วงบ่ายวานนี้ (17 มิ.ย.68) “...ท่านพรหมมินทร์ได้มาหาผม มาหารือกัน ซึ่งท่านก็บอกว่าทางพรรคเพื่อไทยมีความจำเป็นที่จะอยากบริหารกระทรวงมหาดไทยเอง ซึ่งผมก็ได้ปฏิเสธไปแล้วนะครับว่า มันเป็นการผิดข้อตกลง ท่านก็บอกว่าอันนี้ถือว่าเป็นความต้องการของพรรคเพื่อไทย ท่านใช้คำว่า “ไพ่ใบสุดท้าย” “ท่านไม่ได้บอกว่า ต้องตอบภายใน 48 ชั่วโมง ท่านบอกว่าเอาไปคิด 2-3 วัน... ให้กระทรวงสาธารณสุขมาแทน บวกกับรัฐมนตรีสำนักนายกรัฐมนตรีอีกตำแหน่งหนึ่ง หรือว่าถ้าทางพรรคภูมิใจไทยจะมีเงื่อนไขอะไรก็บอกไป ผมก็บอกผมไม่มีเงื่อนไขอะไร ยกเว้นขออยู่ที่เดิม เพราะว่ามันก็เป็นการเริ่มต้นมาเช่นนี้ ก็ไม่ต้องคิด 2-3 วัน ตอบได้เลย ก็ได้ตอบท่านไปแล้ว” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าว ผู้สื่อข่าวถามเพิ่มเติมถึงกระแสข่าวที่ว่าหลังจากนั้น นพ.พรหมมินทร์ ได้โทรศัพท์หานายทักษิณ ชินวัตร พ่อของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ซึ่งทำให้นายอนุทิน อุทานขึ้นว่า “เหรอ อันนั้นไม่ทราบ” และได้กล่าวต่อว่า “ก็คงเป็นงั้น เพราะท่านก็มาหาถึงกระทรวงมหาดไทย ท่านก็คงได้รับการร้องขอให้มาหาผมที่กระทรวง” เมื่อถูกถามว่าแล้วสถานการณ์ต่อจากนี้จะเดินหน้าต่อกันอย่างไร รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย กล่าวว่า เราไม่ได้มีเงื่อนอื่น ไม่ใช่เรื่องของการต่อรอง เป็นข้อตกลง ซึ่งเราก็ทำตามข้อตกลงทุกอย่างแล้ว ทำงานอย่างเต็มที่ สนับสนุนนโยบายรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีมาโดยตลอด ผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจและโหวตในญัตติต่าง ๆ พร้อมย้ำพรรคภูมิใจไทยสนับสนุนรัฐบาลอย่างเป็นเอกภาพมาโดยตลอด ส่วนเสียงจาก สส. บางส่วนของพรรคเพื่อไทยที่พรรคภูมิใจไทยไม่ตอบสนองนโยบายบางอย่าง นายอนุทิน ตอบโต้ทันทีว่า ไม่จริง สุดท้ายตนสามารถตอบได้ทั้งหมด “พอตอบได้หมด เขาก็บอกว่า พูดกันตรง ๆ อยากได้กระทรวงมหาดไทยกลับคืนไป ผมก็บอก พูดกันตรง ๆ ให้ไม่ได้...” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ชี้แจงและยืนยันความพร้อมในคำตอบของตนเอง นายอนุทิน ยืนยันว่า จะไม่มีการแถลงข่าวใด ๆ เนื่องจากได้รับอำนาจจากกรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทยได้ให้ตัดสินใจในเรื่องนี้ ซึ่งตนได้แจ้งการตัดสินใจกับเลขาธิการนายกรัฐมนตรีแล้วเมื่อวานนี้ ผู้สื่อข่าวถามเพิ่มเติมว่า เคยคิดหรือไม่ว่าความสัมพันธ์กับพรรคเพื่อไทยจะเดินมาถึงจุดนี้ นายอนุทิน ตอบว่า “ไม่เคยคิด เพราะคิดว่าทุกคนจะรักษาข้อตกลง ก็ไม่เป็นไร ในเมื่อมันคือ...ถ้าข้อตกลงมันรักษากันไม่ได้ มันก็ต้องต่างคนต่างไป” เมื่อถามอีกว่า กับ “นายกฯ อิ๊งค์” เข้าหน้ากันไม่ติดแล้วหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า “เรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่คนมาคุยกับผมจะมีความสบายใจนัก ผมว่าทุกท่านก็คงทราบว่า นี่มันเป็นการเบรกข้อตกลง ถามว่าดีไหม ไม่ดีหรอก เพราะว่าอีกหน่อย คงจะต้องมานั่งเขียน เงื่อนไข เขียนสัญญา ซึ่งมันก็ไม่ใช่ จริง ๆ ข้อตกลงแบบนี้ มันต้องมีความหมาย ศักดิ์สิทธิ์มากกว่าข้อตกลงที่เป็นข้อเขียนด้วยซ้ำ เพราะว่านี่เป็นการเชื่อมั่นเชื่อใจซึ่งกันและกัน แต่ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยไม่มีอะไรที่เราไม่ทำตามข้อตกลงเลยแม้แต่อย่างเดียว” ส่วนถ้าพรรคภูมิใจไทยต้องออกไปเป็นฝ่ายค้าน มองอายุรัฐบาลนี้จะสั้นหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้าเราเป็นฝ่ายค้านก็ทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเต็มที่ ไม่ได้เล่นเกมอะไร แล้วก็ต้องทำตามบทบาท มาเป็นฝ่ายบริหารก็บริหารให้อย่างเต็มที่ก็ดูแลแล้ว ได้ทำทุกอย่างถูกต้องและก็เหมาะสม การบริหารจัดการในกระทรวงมหาดไทยเป็นปึกแผ่นดีซึ่งอาจจะเป็นส่วนที่อาจจะทำให้พรรคอื่น ๆ มีความกังวล เมื่อถูกถามอีกว่า กรณีมีการพูดว่าหากพรรคภูมิใจไทยออกจากร่วมรัฐบาล จะมี สส. เข้ามาเพิ่มในฝั่งรัฐบาลนั้น นายอนุทิน ระบุว่า นายกฯ ทราบดีว่าอะไรเป็นอะไร รัฐบาลที่มีโครงสร้างและองค์ประกอบจากพรรคการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งจริง ๆ ไม่ใช่เป็นพรรคที่เอา สส. ของพรรคอื่นมาประกอบ เชื่อว่าไม่มีนายกฯ คนไหนต้องการโครงสร้างรัฐบาลแบบอยู่ได้ เพราะเอางูเห่าค้ำยัน “ผมก็ได้ข่าวมาไม่เป็นไร ไปก่อนเดี๋ยวก็เอางูเห่ามา เอาอะไรมา คืออันนี้ผมคิดว่าก็ไม่รู้... ผมคิดว่าไม่ใช่เป็นสิ่งที่เหมาะสม เพราะว่ารัฐบาลก็ควรจะมีองค์ประกอบที่เป็นพรรคการเมืองที่เริ่มกันมาตั้งแต่แรก อันนี้เราเริ่มกันมาตั้งแต่แรก เราสนับสนุนกันมาโดยตลอด... ผมก็ว่า การที่ท่านนายกฯ ท่านก็ส่งเลขาธิการนายกฯ มาเป็นตัวแทนในการพูดขอกระทรวงมหาดไทยกลับไป มันก็แสดงให้เห็นชัดเจนแล้วว่าท่านก็คงมีความไม่สบายใจนัก ที่จะมาพูดคุย ก็เข้าใจเพราะว่าความสัมพันธ์ของเรามันดีมาก แต่ก็ไม่เป็นไร... ความสัมพันธ์ในความเคารพ นับถือกันให้เกียรติกันก็ยังเหมือนเดิม หน้าที่เราก็ต้องไปทำตามหน้าที่ของแต่ละฝ่าย ท่านก็ต้องบริหารประเทศไป ถ้าผมออกไปเป็นฝ่ายค้าน ผมก็ต้องทำหน้าที่ตรวจสอบและก็รักษาประโยชน์ในบริบทที่ฝ่ายตรวจสอบพึงจะกระทำ” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าว เมื่อถามว่าคิดหรือไม่ว่าพรรคเพื่อไทยจะตัดพรรคภูมิใจไทยออกได้จริง นายอนุทิน ตอบทันทีว่า “คิด ถ้าไม่คิดเขาคงไม่พูดแบบนี้...” และกล่าวเล่าถึงกับพบกับนพ.พรหมมินทร์ เพิ่มเติมด้วยว่า “ท่านก็ยังบอกว่าอยากให้อยู่ด้วยกัน แต่ถ้าอยู่ด้วยกันด้วยเงื่อนไขนี้ ก็คงอยู่ด้วยกันไม่ได้” ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ตอนนี้ใช้คำว่าแยกกันเดินได้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “ก็ถ้ามันเป็นตามนี้ ก็ต้องเป็นเช่นนั้น” นายอนุทิน ยืนยันว่าช่วงบ่ายวันนี้จะเข้าประชุมกับนายกรัฐมนตรีตามหน้าที่ เพราะตนยังเป็นรองนายกรัฐมนตรี และเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยอยู่ “จนกว่าจะโปรดเกล้าฯ ให้ผมพ้น การพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรี ก็ต้องมีการโปรดเกล้าฯ” นายอนุทิน กล่าวทิ้งท้าย ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า คำให้สัมภาษณ์ของนายอนุทินในวันนี้ สะท้อนจุดยืนชัดเจนเกี่ยวกับข้อตกลงในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่ง สวนทางกับคำกล่าวของนางสาวแพทองธาร ที่เพิ่งให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้ (17 มิ.ย.68) ว่า การจัดตั้งรัฐบาลเมื่อปี 2566 ไม่มีเงื่อนไขใด ๆ