คำสั่งซื้อผิดปกติ

หนึ่งในมาตรการสำคัญที่เกี่ยวกับการกำกับดูแลพฤติกรรมการซื้อขายหุ้นที่ไม่เหมาะสม ที่ออกโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จะถูกนำมาใช้ และตอนนี้อยู่ระหว่างการทำ เฮียริ่ง คือ การควบคุมการส่งคำสั่งซื้อ หรือ ขายหุ้นที่มีจำนวนมากกว่าจำนวนที่กำหนด เพื่อป้องกันการจับคู่ (matching) ของคำสั่งซื้อขายที่อาจผิดปกติ (Auto Halt) โดยจะใช้กับหุ้นทุกตัวที่อยู่ใน SET Index และ mai Index ได้แก่ หุ้นสามัญ, REIT, Property fund และ Infrastructure fund ที่เปิดให้มีการซื้อขาย แต่จะไม่ใช้กับหุ้นใหม่ไอพีโอที่เพิ่งเข้าเทรดวันแรก, หุ้นที่กลับมาเปิดทำการซื้อขายได้เป็นวันแรก ภายหลังจากถูกขึ้นเครื่องหมาย SP เป็นต้น การเข้ามาควบคุมพฤติกรรมในการส่งออเดอร์ที่ผิดปกติโดยใช้ Auto Halt นั้นจะมีเงื่อนไขดังนี้.. หากมีการตั้งออเดอร์ไม่ว่าจะฝั่ง Bid หรือ Offer เกิน 15% ของหุ้นจดทะเบียนชำระแล้วของหลักทรัพย์นั้น ระบบจะทำการ Auto Halt คือหยุดซื้อขายทันทีและพักการซื้อขายหุ้นตัวนั้นเป็นเวลา 60 นาที นับตั้งแต่ที่ได้หยุดพักการซื้อขาย และจะทำได้ไม่เกินวันละ 1 ครั้งเท่านั้น ระหว่างที่ Auto Halt หน้าจอจะไม่ยกเลิกออเดอร์ที่ตั้งไว้ แต่ไม่สามารถ match ได้ ผู้ลงทุนสามารถถอน หรือยกเลิกออเดอร์ดังกล่าวได้ ในระหว่างที่หยุดพัก แต่จะไม่สามารถส่งออเดอร์ใหม่ลงไปได้อีก ในกรณีที่มีการ Auto Halt ในช่วงเวลาทำการที่เหลือน้อยกว่า 60 นาที ก็จะหยุดตามเวลาที่เหลือไม่ว่าจะเป็นช่วงก่อนปิดตลาดช่วงเช้า (12.30 น.) หรือปิดตลาดเย็น (16.30 น.) ยกตัวอย่าง ณ เวลา 12.00 น.หุ้น AA ส่งออเดอร์เกินเงื่อนไขของ Trigger ที่กำหนด ตามเกณฑ์จะต้องถูกพักการซื้อขาย 60 นาที แต่เนื่องจากเหลือเวลาเทรดอีกเพียงแค่ 30 นาที ก็จะปิดตลาด (ช่วงเช้า) ก็ถือว่าได้หยุดการซื้อขายตามเวลาที่เหลือใน Session นั้นแล้ว ทั้งนี้ Auto Halt จะถูกใช้ได้ตลอดช่วงเวลาของการซื้อขายทั้งวัน ต่อให้เหลือเวลาเทรดแค่ 5 นาทีก่อนปิดตลาดก็ตาม แต่ไม่สามารถใช้ได้ในกรณีที่เป็นช่วง Pre-close หรือตอนหลัง 16.30 น. ยกตัวอย่าง หุ้น AA ถูกขึ้น Auto Halt เวลา 16.25 น. ซึ่งเหลือเวลาเทรดอีกเพียงแค่ 5 นาทีก่อนเข้าสู่ช่วง call market ระบบจะทำการพักการซื้อขาย เพียงแค่ 5 นาที พอช่วงตอน call market หรือ ATC จะสามารถกลับมาส่งออเดอร์ได้ปกติ จนกว่าจะปิดตลาดโดยสมบูรณ์ (เวลา 16.40 น.) สำหรับเหตุผลของการนำ Auto Halt มาใช้ เพื่อต้องการหยุดการซื้อขายระหว่างเทรดในหุ้นรายตัว ที่เข้าเงื่อนไข Trigger เกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ เพราะที่ผ่านมามีเคสที่มีการส่งออเดอร์แบบปกติ และเกิดการ matching กัน โดยผู้เสียหาย คือ ผู้ลงทุนที่เข้าไปซื้อหุ้นตาม กับโบรกเกอร์ที่ทำการ match หุ้นตัวนั้น ทำให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้องออกมาตรการออกมาป้องกัน เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีเคสแบบนี้มาก่อน ประกอบกับที่ผ่านมา ระบบของตลาดไม่เอื้ออำนวยให้สามารถหยุดการซื้อขายหุ้นระหว่างเทรดได้ แม้แต่การขึ้นเครื่องหมาย Halt ก็จะหยุดได้ก่อนเปิดเทรด หรือช่วงหยุดเทรดเท่านั้น ส่วนในระหว่างเทรดทำไม่ได้ ขอบเขตอำนาจของ Auto Halt ที่จะนำมาใช้ ถือว่ามีอำนาจที่สูงกว่า และสามารถเบรกได้ทันที เมื่อเทียบกับ Halt ที่มีอยู่ในปัจจุบัน เพราะสามารถหยุดพักการซื้อขายหุ้นรายตัวได้ทันทีในระหว่างการเทรด หากมีพฤติกรรมที่ส่งคำสั่งแบบผิดปกติ ซึ่งทางการได้หาทางนำมาใช้กำกับดูแลการซื้อขายหุ้นที่ไม่เหมาะสม โดยจะต้องแก้ไขระบบ และจะสามารถใช้ได้ภายในไตรมาส 4 ของปีนี้.. ธิติ ภัทรยลรดี