ค่าจดจำนอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (23 ก.ย.68) ราคาหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์บวกคึก นำโดยบริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF ณ เวลา 10:18 น. อยู่ที่ระดับ 0.09 บาท บวก 0.01 บาท หรือ 12.50% สูงสุดที่ระดับ 0.09 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 0.08 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 0.00 ล้านบาท บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN ณ เวลา 10.23 น. อยู่ที่ระดับ 0.52 บาท บวก 0.02 บาท หรือ 4.00% สูงสุดที่ระดับ 0.52 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 0.52 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 0.06 ล้านบาท บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ RML ณ เวลา 11:54 น. อยู่ที่ระดับ 2.08 บาท บวก 0.10 บาท หรือ 7.14% สูงสุดที่ระดับ 0.015 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 0.14 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 0.01 ล้านบาท บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC ณ เวลา 10:29 น. อยู่ที่ระดับ 1.97 บาท บวก 0.10 บาท หรือ 0.051% สูงสุดที่ระดับ 1.97 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 1.96 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 0.36 ล้านบาท บริษัท ริชี่ เพลซ 2002 จำกัด (มหาชน) หรือ RICHY ณ เวลา 10.32 น. อยู่ที่ระดับ 0.28 บาท บวก 0.01 บาท หรือ 3.70% สูงสุดที่ระดับ 0.28 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 0.28 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 0.01 ล้านบาท นายพบชัย ภัทราวิชญ์ นักกลยุทธ์ตลาดหุ้น ตลาดอนุพันธ์ และสินทรัพย์ดิจิทัล บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (มหาชน) เผยว่า ตลาดหุ้นสัปดาห์นี้มีปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ ความคืบหน้าทางการเมือง หลังจากคณะรัฐมนตรีได้รับโปรดเกล้าฯ และมีกำหนดถวายสัตย์ปฏิญาณในวันที่ 24 ก.ย.นี้ และการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาคาดจะมีขึ้นในช่วงวันที่ 29 ก.ย.-1 ต.ค.นี้ คาดจะเริ่มเห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ ออกมา ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่น่าจะเข้ามาช่วยเกื้อหนุนตลาด สำหรับกลยุทธ์การลงทุน เน้นการลงทุนในหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากนโยบายของภาครัฐ โดยเฉพาะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และโครงการที่กำลังจะเดินหน้าต่อ กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ อาทิ กลุ่มค้าปลีก เป็นกลุ่มที่คาดจะได้ประโยชน์ค่อนข้างชัดเจน หุ้นที่น่าสนใจ ได้แก่ CPALL, GLOBAL, TNP และ CPAXT ขณะที่กลุ่มท่องเที่ยวถือว่ามีความน่าสนใจ เช่น CENTEL กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม ยังคงได้รับประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิตและกระแส Data Center โดยหุ้นที่น่าสนใจ ได้แก่ AMATA และ WHA และกลุ่มรับเหมาก่อสร้างและวัสดุก่อสร้าง น่าจะได้รับประโยชน์ โดยเฉพาะจากโครงการขนาดใหญ่ที่ยังค้างท่ออยู่ ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะถูกนำกลับมาใช้หรือมีการลงทุนเพิ่มเติม นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาผู้ว่าธปท.คนใหม่ (วิทัย รัตนากร) ซึ่งมีแนวโน้มใช้นโยบายการเงินผ่อนคลาย อาจปรับลดดอกเบี้ย ช่วยหนุนหุ้นไฟแนนซ์และลีสซิ่งในระยะถัดไป นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุว่า คาดรัฐบาลชุดใหม่จะแถลงนโยบายต่อสภาช่วงวันที่ 29-30 ก.ย.นี้ สำหรับนโยบายที่มีกระแสออกมาเพิ่มเติมจากในส่วนมาตรการกระตุ้นบริโภค อาทิ คนละครึ่ง, เติมเงินกองทุนหมู่บ้าน รวมถึง Easy E-Receipt และท่องเที่ยว อาทิ ทัวร์ไทยคนละครึ่ง มีข้อมูลเพิ่มเติมจากความเห็นรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ดังนี้ 1.มาตรการคนละครึ่ง จะจัดสรรให้อย่างทั่วถึง อาทิ กรณีผู้ได้รับสิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐฯ แล้ว มีแนวทางเบื้องต้นว่าผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะได้รับสิทธิในลักษณะ Top Up เช่น หากบัตรสวัสดิการให้สิทธิ์ 300 บาท รัฐบาลจะเติมให้อีก 700 บาท รวมเป็น 1,000 บาท เพื่อไม่ให้น้อยกว่าประชาชนทั่วไป ส่วนประชาชนทั่วไปอาจจะได้สิทธิ์ 1,000 บาท ขณะที่ผู้ที่อยู่ในระบบภาษีอาจให้สิทธิ์มากกว่าที่ 1,200 บาท ทั้งนี้ โดยรวมยังไม่แตกต่างไปจากข้อมูลเดิมที่ตลาดรับรู้ช่วงก่อนหน้า แต่ชัดเจนขึ้นว่าผลบวกดีกับหุ้นที่มีสาขาครอบคลุม และผู้ที่จำหน่ายสินค้าจำเป็น อาทิ CPALL (บวกทางตรงจากการถือหุ้น CPAXT และทางอ้อมจากการมีสาขาครอบคลุม ดีจากกำลังซื้อภาพรวม), CPAXT, BJC เป็นลำดับต้น 2.คาดจะเลื่อนเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่ต้องถูกเลื่อนจัดเก็บเต็มอัตราออกไป จิตวิทยาบวกต่อหุ้นอสังหาฯ ที่ภาระดังกล่าว ลดความกังวลกับการซื้ออสังหาฯ ใหม่ ระยะสั้นเน้น AP, SPALI และหุ้นอิงกำลังซื้อภายใน เน้น CPALL, CPAXT, BJC นอกจากนี้ รัฐบาลเตรียมเดินหน้าโครงการ “โซลาร์ชุมชน” ภายใน 4 เดือน เพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2050 โดยตั้งเป้าผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในชุมชนรวมกว่า 1,500 เมกะวัตต์ในระยะเริ่มต้น บวกต่อ GULF, GUNKUL ด้านบล.ดาโอ ระบุในบทวิเคราะห์(16 ก.ย.68) ว่า 3 สมาคมอสังหาฯ เตรียมเสนอรัฐบาล ใหม่ออกมาตรการฟื้นตลาดอสังหาฯ นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมคมอาคารชุดไทย เปิดเผยว่าในช่วง ที่ผ่านมา 3 สมาคมอสังหาฯ ได้ยื่นจดหมายขอเข้าพบนายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกูล เพื่อหารือมาตรการฟื้นฟูตลาดอสังหาฯ ได้แก่ 1) มาตรการ ยกเว้นค่าธรรมเนียมการโอนและค่าจดจำนองในทุกระดับราคาถึงวันที่ 31 ธ.ค.2568 (จากเดิมลดค่าธรรมเนียมโอนและค่าจดจำนองในระดับราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท เหลือ 0.01% ถึงวันที่ 30 มิ.ย.2568 และ 2) การปรับลดดอกเบี้ย นโยบายของ กนง. ครั้งสุดท้ายภายในสิ้นปี 2568 ที่ 0.5% โดย DAOL มองเป็นบวกจากข่าวดังกล่าว ซึ่งยังเป็นประเด็นที่ต้องติดตาม โดย ข้อ 1) การยกเว้นทางธรรมเนียมการโอนและค่าจดจำนองในทุกระดับราคาถึง วันที่ 31 ธ.ค.2568 จากปัจจุบันที่ให้เฉพาะไม่เกิน 7 ล้านบาท หากมีมาตรการนี้ มองเป็นบวกระยะสั้นต่อภาพรวมกลุ่มอสังหาฯ ในระดับกลาง-บน ซึ่งอาจเป็นการดึง demand ล่วงหน้ามารับรู้รายได้ในไตรมาส 4/68 สำหรับหุ้นที่จะได้ผลบวกได้แก่ SIRI, SPALI, AP, SC เป็นต้น ส่วนข้อ 2) การปรับลดดอกเบี้ย นโยบาย เป็นอำนาจของ ธปท. ซึ่งต้องพิจารณาถึงภาพรวมเศรษฐกิจ หากมีการปรับลดดอกเบี้ยจะเป็นบวกต่อภาพรวมทั้งอุตสาหกรรม ทั้งนี้ กลุ่ม property ให้น้ำหนักการลงทุนเป็น neutral โดยหุ้น top pick ได้แก่ SIRI แนะนำซื้อราคาเป้า 1.80 บาท และ SPALI แนะนำซื้อเป้า 20.00 บาท