ฐานผลิตรถยนต์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (5 ก.ค.68) นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนพฤษภาคม 2568ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยถือเป็นการขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่สอง นับตั้งแต่ดัชนีกลับมาเป็นบวกในเดือนเมษายนที่ผ่านมา หลังจากที่หดตัวต่อเนื่องนานกว่า 9 เดือน ซึ่งรัฐบาลมองว่าเป็น “สัญญาณบวก” ต่อภาคการผลิตของไทย โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจภาพรวม โดยหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ขยายตัวโดดเด่น คือกลุ่มยานยนต์ โดยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมในหมวดยานยนต์เดือนพฤษภาคม ขยายตัวร้อยละ 12.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 หลังจากที่กลับมาฟื้นตัวได้เป็นครั้งแรกในรอบ 21 เดือนเมื่อเดือนเมษายน ดัชนีย่อยกลุ่มรถยนต์นั่ง ขยายตัวร้อยละ 22.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 12 เดือนที่กลับมาเป็นบวก กลุ่มรถกระบะ (1 ตัน) ขยายตัวร้อยละ 5.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน นับเป็นครั้งแรกในรอบ 23 เดือนที่กลับมาขยายตัว แม้ยังถือว่า “ต้องจับตาใกล้ชิด” และยังจำเป็นต้องได้รับแรงกระตุ้นเพิ่มเติม ข้อมูลยอดการผลิตรถยนต์เดือนพฤษภาคม 2568 เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็น รถยนต์นั่งพลังงานสันดาปภายใน (ICE) หดตัวร้อยละ 16 รถยนต์ไฟฟ้าล้วน (BEV) ขยายตัวร้อยละ 641 รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ขยายตัวร้อยละ 130 รถยนต์ไฮบริด (HEV) ขยายตัวร้อยละ 35 รถกระบะ 1 ตัน (Single Cab, Double Cab, PPV) ขยายตัวร้อยละ 8 ทั้งนี้ ยอดจดทะเบียนรถยนต์นั่งใหม่ในเดือนพฤษภาคม ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นและอุปสงค์ภายในประเทศที่ทยอยฟื้นตัว ขณะเดียวกัน อุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ยังคงมีทิศทางที่ดี โดยดัชนี MPI กลุ่มนี้ขยายตัวร้อยละ 7.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน นับเป็นการขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 สอดคล้องกับปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง