ธุรกิจบันเทิงไทย

บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ WORK รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3 และงวด 9 เดือนแรกของปี 2568 มีกำไรสุทธิ ดังนี้ โดยผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3 ปี 2568 บริษัทมีรายได้รวม (ไม่รวมรายได้อื่น) 478.31 ล้านบาท ลดลง 31.01 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 6 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 509.32 ล้านบาท โดยแต่ละธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงดังนี้ ธุรกิจรายการโทรทัศน์ บริษัทมีรายได้จากธุรกิจรายการโทรทัศน์ 339.80 ล้านบาท ลดลง 47.43 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 12 จากปีก่อน เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ทั้งในประเทศและต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ในไตรมาสนี้บริษัทได้เปิดตัวรายการใหม่หลายรายการ อาทิ “The Bone เก่งกระดูก by ศิริราช” และ “The Celeb Wars สงครามเซเลบ” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ต่อเนื่องเพื่อรักษาฐานผู้ชมและเพิ่มโอกาสทางรายได้ ธุรกิจรับจ้างจัดงาน (อีเวนต์) รายได้จากการรับจ้างจัดงานอยู่ที่ 60.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.47 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 56 จากปีก่อนที่ 38.68 ล้านบาท โดยบริษัทได้รับมอบหมายจัดงานสำคัญหลายรายการ เช่น “๕ ทศวรรษ สายสัมพันธ์บ้านพี่เดิม”, “มอร์ 20 ปี ซุปเปอร์แฟร์” และ “ศตวรรษา อานันทมหิดล 100 ปี” นอกจากนี้ยังมีงานอีเวนต์ที่ต่อยอดจากรายการโทรทัศน์ เช่น “เทศกาลอาหาร 5 ดาว อีทส์แฟร์” และ “LACTASOY CUP ROAD TO 3FIC” ซึ่งได้รับการตอบรับดี สะท้อนความสำเร็จของการบูรณาการคอนเทนต์และกิจกรรมอีเวนต์ ธุรกิจคอนเสิร์ตและละครเวที บริษัทมีรายได้จากคอนเสิร์ตและละครเวที 47.71 ล้านบาท ลดลง 14.87 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากปีที่แล้วมีการแสดง “นิทานหิ่งห้อย เดอะมิวสิคัล” และคอนเสิร์ตศิลปินต่างประเทศที่มีรอบการแสดงมากกว่า อย่างไรก็ตาม ไตรมาสนี้ยังคงจัดกิจกรรมกับศิลปินที่มีฐานแฟนคลับชัดเจน เช่น “VIOLETTE Wautier: First Story”, “โหมโรง เดอะมิวสิคัล Restage”, “The Real”, “XOXO Multiverse” และ “Wednesday Song” รายได้จากการขายสินค้าและบริการอื่น มีรายได้ 30.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.81 ล้านบาท หรือร้อยละ 47 จากปีก่อน โดยมาจากธุรกิจบริหารศิลปินที่ได้รับโอกาสร่วมกิจกรรมและเป็นพรีเซนเตอร์ให้หลายแบรนด์มากขึ้น ต้นทุนและค่าใช้จ่าย บริษัทมีต้นทุนการผลิต 327.78 ล้านบาท ลดลง 73.08 ล้านบาท หรือร้อยละ 18 จากปีก่อน สาเหตุจากการยุติการผลิตละคร ทำให้ค่าใช้จ่ายด้านลิขสิทธิ์ลดลง และการปรับโครงสร้างองค์กรช่วยลดต้นทุนลง ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารอยู่ที่ 143.02 ล้านบาท ใกล้เคียงปีก่อน โดยค่าใช้จ่ายในการขายลดลงจากการปรับลดขนาดองค์กร ส่วนค่าใช้จ่ายบริหารเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากการปรับปรุงโรงละครเคแบงก์สยามพารากอน ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุน บริษัทได้รับส่วนแบ่งกำไรจากกิจการร่วมค้า 11.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากขาดทุน 2.66 ล้านบาทในปีก่อน โดยมาจากผลประกอบการของภาพยนตร์ “เดอะสโดน พระแท้ คนเก่ง” ซึ่งออกฉายบนแพลตฟอร์ม OTT ตามแผน