น้ำทะเลหนุน

ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมทั่วประเทศ วันนี้ (14 พ.ย. 68) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ระบุพื้นที่เสี่ยงภัยสำคัญ ดังนี้ น้ำท่วมฉับพลัน–น้ำป่าไหลหลาก–น้ำท่วมระยะสั้น ราชบุรี และประจวบคีรีขันธ์ น้ำล้นตลิ่ง–น้ำท่วมขัง สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี สุพรรณบุรี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา นครปฐม ปทุมธานี และนนทบุรี น้ำทะเลหนุนสูงพื้นที่ชายฝั่ง ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม สมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี นราธิวาส ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ปภ. ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลสภาพอากาศและประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ ชุมชนริมแม่น้ำ และพื้นที่ชายฝั่งที่มีความเสี่ยงได้รับผลกระทบจากระดับน้ำที่ผันผวน ภาพ : เขื่อนภูมิพล เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2568 ด้านเขื่อนภูมิพล รายงานสถานการณ์น้ำล่าสุดว่า อ่างเก็บน้ำยังสามารถรองรับน้ำได้อีก 62.23 ล้านลูกบาศก์เมตร จากปริมาณน้ำกักเก็บปัจจุบัน 13,399.77 ล้านลูกบาศก์เมตร มีน้ำไหลเข้าสะสม (ข้อมูล 13 พ.ย.68) 50.65 ล้านลูกบาศก์เมตร และยังคงแผนระบายน้ำ 55 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ในช่วงวันที่ 14–16 พฤศจิกายน 2568 การบริหารจัดการดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อควบคุมระดับน้ำในอ่างให้อยู่ในเกณฑ์เหมาะสมตามสภาพฝนและปริมาณน้ำไหลเข้า พร้อมลดผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายเขื่อนและลุ่มน้ำด้านล่าง สำหรับด้านความปลอดภัยของโครงสร้าง เขื่อนภูมิพลร่วมกับฝ่ายบำรุงรักษาโยธา (อบย.) และคณะวิจัยจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดประชุมติดตามผลการติดตั้งอุปกรณ์ Fiber Optic สำหรับตรวจวัดการเคลื่อนตัวของโครงสร้าง ช่วงเดือนกรกฎาคม–พฤศจิกายน 2568 ผลเบื้องต้นพบว่า เขื่อนภูมิพลยังมีความมั่นคง แข็งแรง และปลอดภัย โดยข้อมูลที่ได้จะนำไปใช้ประกอบการพิจารณาขยายการใช้เทคโนโลยีดังกล่าวในระบบตรวจสอบเขื่อนในอนาคต เพื่อเพิ่มความละเอียดและความต่อเนื่องในการเฝ้าระวัง