บัวหลวงวิจัย

นายภูวดล ภูสอดเงิน ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามทิศทางตลาดต่างประเทศ หลังนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณชัดเจนถึงการลดอัตราดอกเบี้ยมากขึ้น สร้างแรงหนุนให้หุ้นที่ได้รับประโยชน์จากแนวโน้มดอกเบี้ยขาลง เช่น กลุ่มโรงไฟฟ้าและกลุ่มไฟแนนซ์ ปรับตัวขึ้น หนุนบรรยากาศการลงทุน (Sentiment) ให้หุ้นขนาดใหญ่ปรับตัวตามไปด้วย นอกจากนี้ หุ้นในกลุ่มส่งออกปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น หลังจากกระทรวงพาณิชย์รายงานตัวเลขการส่งออกเดือนกรกฎาคมขยายตัว 11% สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ประกอบกับราคาหุ้นกลุ่มดังกล่าวที่ปรับตัวลดลงมาก่อนหน้า และการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงในช่วงหลัง ยิ่งหนุนให้เม็ดเงินลงทุนไหลกลับเข้ามาในหุ้นกลุ่มนี้มากขึ้น สำหรับแนวโน้มการลงทุนวันพรุ่งนี้ คาดว่าตลาดหุ้นไทยจะเคลื่อนไหวในกรอบไซด์เวย์ โดยสัปดาห์นี้นักลงทุนยังต้องติดตามปัจจัยการเมืองภายในประเทศ โดยเฉพาะการวินิจฉัยคดีคลิปเสียงของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แม้ผลกระทบต่อตลาดลดน้อยลงเนื่องจากถูกสะท้อน (Price in) ไปมากแล้ว หากมีข้อยุติที่ชัดเจนจะถือเป็นการปลดล็อคปัจจัยกดดันและช่วยหนุนดัชนีให้มีโอกาสปรับขึ้นต่อได้ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศ นักลงทุนจับตาการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อและผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2568 ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งอาจส่งผลต่อทิศทางตลาดโลกและตลาดหุ้นไทยในระยะถัดไป ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,682.38 ล้านบาท ปิดที่ 165.50 บาท ลดลง 1.50 บาท THAI มูลค่าการซื้อขาย 2,196.92 ล้านบาท ปิดที่ 12.60 บาท ลดลง 0.30 บาท GULF มูลค่าการซื้อขาย 1,555.91 ล้านบาท ปิดที่ 48.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท TRUE มูลค่าการซื้อขาย 1,460.14 ล้านบาท ปิดที่ 11.70 บาท ลดลง 0.10 บาท BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,399.13 ล้านบาท ปิดที่ 20.90 บาท ลดลง 0.10 บาท