พืชผลการเกษตร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานประชุมหารือร่วมกับ 4 สมาคมภาคการเกษตร ได้แก่ สมาคมโรงสีข้าวไทย สมาคมโรงสีข้าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย และสมาคมการค้าพืชไร่ เพื่อเปิดรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วน เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 ทั้งนี้ สมาคมต่าง ๆ สะท้อนปัญหาเชิงโครงสร้าง ทั้งเรื่องแหล่งน้ำ เมล็ดพันธุ์ ต้นทุนการผลิต เช่น ปุ๋ย ยาปราบศัตรูพืช น้ำมัน รวมถึงความจำเป็นต้องเร่งหาตลาดรองรับผลผลิตอย่างมีเสถียรภาพ นางศุภจี กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ขอบคุณตัวแทนทั้ง 4 สมาคมที่ร่วมเสนอข้อมูลในประเด็นข้าวและพืชไร่ โดยจะนำข้อเสนอทั้งหมดเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (นบข.) ในวันอังคารที่ 18 พฤศจิกายน 2568 ซึ่งมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน เพื่อจัดทำมาตรการที่เหมาะสมและสมดุลต่อทุกภาคส่วน รมว.พาณิชย์ ระบุว่า ได้รับฟังข้อเสนอรอบด้านเพื่อนำไปกำหนดแนวทางดูแลชาวนา ชาวไร่ และผู้ประกอบการในห่วงโซ่การผลิต รวมถึงการผลักดันให้เกษตรกรบางส่วนทดลองปลูกพืชทดแทนในพื้นที่ที่เหมาะสม ควบคู่กับการจัดหาแหล่งทุนสนับสนุน เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มผลผลิตต่อไร่ ส่วนปีนี้คาดว่า มีข้าวเปลือกส่วนเกินในตลาดราว 3–4 ล้านตัน กระทรวงพาณิชย์เตรียมมาตรการดูดซับผลผลิต เช่น การผลิตข้าวถุงจำหน่ายผ่านหน่วยงานรัฐ และการเร่งเดินหน้าเจรจาส่งออกแบบรัฐต่อรัฐ (G2G) เพื่อระบายผลผลิตอย่างต่อเนื่อง สำหรับพืชไร่ จากการหารือกับสมาคมการค้าพืชไร่ มีข้อเสนอให้คงราคากำหนดรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ โดยข้าวโพดสด ความชื้น 30% อยู่ที่ 7.05 บาท/กิโลกรัมและข้าวโพดแห้ง ความชื้น 14.5% ณ หน้าโรงงานอาหารสัตว์ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล อยู่ที่ 9.80 บาท/กิโลกรัม พร้อมขอให้กำกับให้โรงงานอาหารสัตว์รับซื้ออย่างคล่องตัว ทั้งนี้ รมว.พาณิชย์ ได้สั่งการให้กรมการค้าภายใน และสำนักงานพาณิชย์จังหวัด เข้มงวดตรวจสอบการรับซื้อ หากพบการรับซื้อไม่เป็นธรรม หรือไม่เป็นไปตามเงื่อนไข จะดำเนินการอย่างเด็ดขาด