ฟ้องคดีหลักทรัพย์

ผู้สื่อข่าวรายงาน จากกรณีที่มีกระแสข่าวว่า เมื่อวานนี้ (6 ส.ค. 68) พนักงานอัยการแผนกคดีพิเศษได้มีคำสั่งฟ้องผู้ต้องหาคดีเกี่ยวกับการสร้างราคาหุ้นของ บริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) หรือ MORE จนทำให้บริษัทหลักทรัพย์จำนวน 10 บริษัท ได้รับความเสียหายประมาณ 4,500 ล้านบาท โดยพนักงานสอบสอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ทำสำนวนส่งฟ้องต่ออัยการรวมทั้งหมด 42 รายนั้น ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (7 ส.ค.68) พ.ต.ต. ยุทธนา แพดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เปิดเผยผ่านรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” ว่า พนักงานสอบสวนได้รายงานข้อมูลเบื้องต้นให้ทราบว่า พนักงานอัยการได้มีคำสั่งฟ้องผู้ต้องหาตามหมายจับรวมทั้งหมด 42 ราย โดยมีผู้ต้องหาเดินทางเข้าพบพนักงานอัยการตามนัดกลุ่มแรกจำนวน 28 ราย และอัยการได้นำตัวทั้งหมดไปยื่นฟ้องต่อศาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งถูกแจ้งข้อกล่าวหาในฐานความผิดเดียวกันทั้งหมด ได้แก่ ความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกง, ความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ และความผิดฐานเป็นอั้งยี่ ซ่องโจร ส่วนเหตุผลที่พนักงานอัยการแบ่งการสั่งฟ้องออกเป็น 2 ชุดนั้น ส่วนตัวไม่อาจทราบได้ เพราะเป็นขั้นตอนของพนักงานอัยการ แต่จากหลักปฏิบัติโดยทั่วไปคดีที่มีผู้ต้องหาจำนวนมาก พนักงานอัยการจะทยอยสั่งฟ้องผู้ต้องหา เพื่อสะดวกต่อการดำเนินคดี การนัดหมายให้ผู้ต้องหาทั้งหมดเข้าพบพร้อมกันในคราวเดียวนั้นทำได้ยาก จึงอาจเป็นเหตุผลที่มีการแบ่งกลุ่มผู้ต้องหาออกเป็น 2 ชุดในการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ส่วนของรายชื่อผู้ต้องหา 28 ราย ที่ถูกนำตัวไปฟ้องต่อศาล พ.ต.ต. ยุทธนา กล่าวว่า “ขออนุญาตไม่เปิดเผยรายละเอียดรายบุคคล เนื่องจากยังไม่มีรายชื่ออยู่ในมือ ณ เวลานั้น” เมื่อถามถึงรายละเอียดรายชื่อผู้ต้องหาหลักรายสำคัญ 3-4 รายนั้น พ.ต.อ.ยุทธนา ระบุว่า ทาง DSI มีหน้าที่เพียงนำตัวผู้ต้องหา 28 รายไปฟ้องศาลตามขั้นตอน และอำนวยความสะดวกในกระบวนการส่งตัวผู้ต้องหาเข้าสู่การพิจารณาของศาลเท่านั้น 42 ราย ขณะเดียวกัน ด้านผู้ต้องหาอีก 14 ราย ที่ยังไม่มาพบพนักงานอัยการตามนัดหมาย พ.ต.ต. ยุทธนา ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับแจ้งจากอัยการว่าจะมีการนัดหมายใหม่เมื่อใด โดยขั้นตอนนี้ถือเป็นอำนาจและกระบวนการของพนักงานอัยการในการนัดหมายผู้ต้องหาให้มารับทราบข้อกล่าวหา “ในทางปฏิบัติ ถ้าผู้ต้องหาไม่มาตามนัดหมาย อัยการจะประสานมายัง DSI เพื่อดำเนินการตามกฎหมายในการติดตามตัวมาดำเนินคดี แต่การแจ้งนัดหมายเบื้องต้นนั้น พนักงานอัยการสามารถแจ้งไปยังตัวผู้ต้องหาโดยตรงได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องผ่าน DSI ทุกครั้ง” พ.ต.ต. ยุทธนา กล่าว นอกจากนี้ พ.ต.ต. ยุทธนา กล่าวทิ้งท้ายถึงรายงานข่าว ระบุว่า ผู้ต้องหากลุ่มสำคัญ ได้แก่ ปิงปอง อภิมุข บำรุงวงศ์, กลุ่ม คิม พรประภา, กลุ่มตงฮั้ว และเฮียม้อ-อมฤทธิ์ กล่อมจิตเจริญ ไม่ได้อยู่ในกลุ่ม 28 รายที่ถูกนำตัวฟ้องศาลเมื่อวานนี้ 6 ส.ค. หรือไม่นั้น บุคคลในรายชื่อที่ถูกกล่าวถึงนั้นมีเดินทางมาศาล แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดรายชื่อแบบเจาะจงว่าใครมาบ้างหรือไม่มา ขณะที่หากกล่าวถึงความผิดในคดี MORE นั้นในทางแพ่งและทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา แบ่งเป็น 3 สำนวน ได้แก่ 1.คดีฉ้อโกงที่ศาลมีคำสั่งให้คืนหรือชดใช้ทรัพย์สินแก่บริษัทหลักทรัพย์ผู้เสียหายจำนวน 10 ราย รวมมูลค่ากว่า 4,500 ล้านบาท 2.คดีอั้งยี่ซึ่งมีมูลค่าความเสียหาย 129 ล้านบาท โดยศาลมีคำสั่งให้คืนเงินแก่บริษัทหลักทรัพย์ 10 ราย และ 3. คดีสร้างราคาหุ้น ซึ่งถือเป็นมาตรการทางแพ่ง มีมูลค่าความเสียหายประมาณ