ภาษีตอบโต้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี (13 ก.พ.68) ปรับตัวสูงขึ้น หลังจาก ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยแผนบังคับใช้ภาษีตอบโต้ (Reciprocal tariffs) แต่ยังชะลอการมีผลบังคับใช้ไปในเดือนเมษายน ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาข้อมูล “เงินเฟ้อ” ที่ส่งสัญญาณอาจเร่งตัวขึ้นอีกครั้ง ดัชนีดาวโจนส์ (.DJI) ปิดที่ 44,711.43 จุด บวก 342.87 จุด หรือ 0.77% ดัชนี S&P 500 (.SPX) ปิดที่ 6,115.07 จุด บวก 63.10 จุด หรือ 1.04% ดัชนี Nasdaq Composite (.IXIC) ปิดที่ 19,945.64 จุดบวก 69 จุด หรือ 1.50% ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นมากกว่า 0.7% ขณะที่ดัชนี S&P 500 (GSPC) เพิ่มขึ้น กว่า 1% ปิดที่ 6,115.07 ซึ่งใกล้แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 6,118.71 ด้าน Nasdaq Composite (IXIC) ซึ่งเป็นดัชนีที่มีหุ้นเทคโนโลยีเป็นหลัก พุ่งขึ้นมากกว่า 1.5% ได้แรงหนุนจากหุ้น Nvidia (NVDA) และ Tesla (TSLA) กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผย ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในเดือนมกราคม 2568 ปรับตัวขึ้น 3.5% ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน (Core PPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นหนึ่งในมาตรวัด “เงินเฟ้อ” ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด (Fed) จับตาอย่างใกล้ชิดนั้น ในเดือนมกราคม ปรับตัวขึ้น 3.6% แต่เมื่อเทียบรายปี ชะลอตัวลงจากระดับ 3.7% ในเดือนธันวาคม 2567