รวมสิน ทรัพย์สาคร

ถ้าจำกันได้ช่วงต้นสัปดาห์ก่อนโน้น หรือในวันอังคารที่ 10 มิ.ย. 2568 ที่ผ่านมา มีบิ๊กล็อตปริศนาหุ้นน้ำผลไม้ชื่อดัง บริษัท ทิปโก้ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPCO ก้อนใหญ่จำนวน 115.81 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 24% ที่ราคาหุ้นละ 11.20 บาท มูลค่า 1,297.17 ล้านบาท... เป็นราคาที่สูงกว่าในกระดานวันที่ 9 มิ.ย. 2568 ซึ่งปิดตลาดที่ 9.10 บาท ถึง 23.07% เลยทีเดียว หลายคนคงอยากรู้ว่าใครทำบิ๊กล็อตก้อนนี้ แต่แหม๊...บิ๊กล็อตก้อนใหญ่ขนาดนี้ เป็นใครไปไม่ได้ นอกจากฝีมือของผู้ถือหุ้นใหญ่แหละ..เชื่อหัวไอ้เรืองสิ..?? ซึ่งไม่ต้องรอนาน เพราะให้หลังมา 3 วันทำการ คำตอบปรากฏ...เป็นการขายหุ้นของ “กลุ่มทรัพย์สาคร” นั่นเอง... นำโดย “รวมสิน ทรัพย์สาคร” ขายจำนวน 38.60 ล้านหุ้น คิดเป็น 8% ส่งผลให้เหลือถือ 16.39 ล้านหุ้น คิดเป็น 3.3970% จากเดิมถือ 55 ล้านหุ้น คิดเป็น 11.3970% ตามมาด้วย “สิทธิลาภ ทรัพย์สาคร” ขายจำนวน 38.60 ล้านหุ้น คิดเป็น 8% ส่งผลให้เหลือถือ 11.39 ล้านหุ้น คิดเป็น 2.3609% จากเดิมถือ 50 ล้านหุ้น คิดเป็น 10.36.9% ขณะที่ “ลักษณา ทรัพย์สาคร” ขายจำนวน 38.60 ล้านหุ้น คิดเป็น 8% ส่งผลให้เหลือถือ 2.85 ล้านหุ้น คิดเป็น 0.5915% จากเดิมถือ 41.46 ล้านหุ้น คิดเป็น 8.5915% ส่วนคนที่มารับซื้อไปนั้น ปรากฏชื่อ COLAS S.A. โดยถือหุ้นจำนวน 115.81 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 23.9999% ฟาสต์แทร็กขึ้นเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่เบอร์หนึ่งทันที..!! ว่าแต่ทำไม “กลุ่มทรัพย์สาคร” ต้องขายหุ้นด้วยล่ะ..?? บ่เข้าใจ๋ ทั้ง ๆ ที่ TIPCO เป็นแบรนด์น้ำผลไม้พร้อมดื่มที่กลุ่มนี้ปลุกปั้นขึ้นมากับมือ โดยเป็นธุรกิจที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเกือบ 5 ทศวรรษแล้ว (ก่อตั้งตั้งแต่ปี 2519) แต่มาวันนี้กลุ่มผู้ก่อตั้งดันขายหุ้นทิ้งเสียนี่... ถ้าไปส่องผลประกอบการ แม้ไม่ได้เริ่ดสแมนแตน แล้วกำไรที่เห็นส่วนใหญ่อาศัยใบบุญจากการรับรู้จากบริษัทลูกอย่าง บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TASCO แต่ตัวเลขบรรทัดสุดท้ายก็ยังเป็นบวก โดยในรอบ 4 ปี มีตัวเลขติดลบแค่ปีเดียว คือ ในปี 2567 ที่ขาดทุน 92.10 ล้านบาท ขณะที่ในไตรมาส 1/2568 โชว์กำไรสุทธิ 110.81 ล้านบาท จากรายได้รวม 532.55 ล้านบาท โดย ณ สิ้นไตรมาส 1/2568 มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดอยู่ที่ 154.83 ล้านบาท และมีกำไรสะสมยังไม่ได้จัดสรรสูงกว่า 3,638.15 ล้านบาท ที่สำคัญ TIPCO เป็นหุ้นที่ติดทำเนียบหุ้นปันผลสูง ดิวิเดนด์ยีลด์เฉลี่ยอยู่ที่ 8-9% เลยทีเดียว...ก็น่าจะเก็บไว้กินปันผลสิ...ว่ามั้ย..?? แต่กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่กลับขายหุ้นให้กับ COLAS S.A. ซึ่งเป็นบริษัทวิศวกรรมโยธาชั้นนำของฝรั่งเศสที่เชี่ยวชาญด้านการก่อสร้างถนนและทางรถไฟที่ก่อตั้งมา 70 ปี...ซึ่งในมุมธุรกิจดูจะไม่เกี่ยวข้องกันเลย... โอเค...แม้กลุ่ม COLAS S.A. จะเป็นพันธมิตรกับ “กลุ่มทรัพย์สาคร” อยู่แล้ว จากการที่ BNP PARIBAS SECURITIES (ASIA) LTD-FOR COLAS ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ COLAS S.A. มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่เบอร์หนึ่งของหุ้นยางมะตอย TASCO ด้วยสัดส่วน 31.09%... ดังนั้น การดึง COLAS S.A. มาถือหุ้น TIPCO อาจมองเป็นการดึงพันธมิตรเข้ามาเสริมความแข็งแกร่ง...ก็อาจมองได้ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องขายล็อตใหญ่ขนาดนี้ก็ได้นะ...มันทำให้มองเป็นอื่นไปไม่ได้ นอกจาก “กลุ่มทรัพย์สาคร” ส่งสัญญาณไม่เอาแล้ว จะ EXIT แล้วอ๊ะป่าว.?? ก็ไม่รู้สินะ แต่ที่พอรู้...การขายหุ้นครั้งนี้ได้กำไรก้อนโตไปกว่า 1,181.36 ล้านบาท เนื่องจาก “กลุ่มทรัพย์สาคร” มีต้นทุนหุ้น TIPCO เพียง 1.00 บาท (คำนวณจากราคาพาร์) ทำให้มีกำไรส่วนต่างจากราคาหุ้นครั้งนี้ 10.20 บาทต่อหุ้น... ในขณะที่ COLAS S.A. ได้เป็นเจ้าของหุ้นน้ำผลไม้แบรนด์ดังที่จ่ายปันผลงาม ๆ ไป...รอรับเงินปันผลไม่กี่ปี ก็น่าจะคืนทุนแล้วมั้ง... ส่วน TIPCO ภายใต้การนำของ COLAS S.A. จะเป็นยังไง.?? ยังนึกภาพไม่ออกจริง ๆ ให้ตายสิ.!! ...อิ อิ อิ...