ร่างกฎหมายคริปโต

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดการซื้อขายวันพฤหัสบดี (17 ก.ค.68) ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจเชิงบวกและผลประกอบการเด่นจากบริษัทชั้นนำ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (DJI) ปิดที่ 44,484.49 จุด เพิ่มขึ้น 229.71 จุด หรือ +0.52% ดัชนี S&P 500 (SPX) ปิดที่ 6,297.36 จุด เพิ่มขึ้น 33.06 จุด หรือ +0.54% ดัชนี Nasdaq Composite (IXIC) ปิดที่ 20,885.65 จุด เพิ่มขึ้น 155.16 จุด หรือ +0.75% ดัชนี Nasdaq ปิดระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 6 ใน 7 วันทำการล่าสุด ขณะที่ S&P 500 ทำนิวไฮต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 6 นับตั้งแต่ปลายมิถุนายน นักลงทุนรับข่าวบวกจากยอดค้าปลีกสหรัฐฯ เดือนมิถุนายนที่ขยายตัว 0.6% (ดีกว่าคาดที่ 0.2%) และตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานลดลงสู่ 221,000 ราย ต่ำสุดในรอบ 3 เดือน สะท้อนความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานและกำลังซื้อ นอกจากนี้ ผลประกอบการไตรมาส 2 ของ PepsiCo และ United Airlines ออกมาดีกว่าคาด ส่งผลให้ราคาหุ้นของทั้งสองบริษัทปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ Netflix รายงานรายได้ 11.08 พันล้านดอลลาร์ และกำไรต่อหุ้น 7.19 ดอลลาร์ สูงกว่าประมาณการของนักวิเคราะห์ แม้ว่าราคาหุ้นจะอ่อนตัวเล็กน้อยหลังปิดตลาด นักลงทุนยังมองว่าเป็นแรงหนุนสำคัญต่อดัชนี Nasdaq จากการเติบโตของธุรกิจโฆษณาและความนิยมของคอนเทนต์ใหม่ ส่วนหุ้นกลุ่มชิปได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการไตรมาสสูงสุดของ TSMC ด้านค่าเงิน ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย สอดคล้องกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยตลาดหุ้นยังคงตอบรับเชิงบวก แม้จะมีความไม่แน่นอนจากนโยบายเศรษฐกิจและการคลัง หลังตลาดปิดไม่นาน สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ มีมติผ่านร่างกฎหมายคริปโต 3 ฉบับ ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น 308–122 เสียง ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าอาจเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญต่อการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลในสหรัฐฯ และอาจส่งแรงหนุนต่อตลาดคริปโตโลกในระยะถัดไป