ลดค่า Ft

ที่ประชุมคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ครั้งที่ 34/2566 เมื่อวันที่ 26 ก.ค.66 เปิดเผยว่า กกพ.มีมติรับทราบผลการรับฟังความคิดเห็นค่าเอฟที และได้พิจารณากรณีศึกษาการปรับค่าเอฟทีขายปลีก สำหรับเรียกเก็บในงวดเดือนกันยายน- ธันวาคม 2566 โดยมีมติเห็นชอบค่าเอฟทีเรียกเก็บจำนวน 66.89 สตางค์/หน่วย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยปรับลดลงจากงวดปัจจุบัน (พฤษภาคม - สิงหาคม 2566) จาก 4.70 บาท/หน่วย เหลืออยู่ที่ 4.45 บาท/หน่วย และให้มีผลตั้งแต่รอบบิลเดือนกันยายน 2566 บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(27 ก.ค.66) ว่า กกพ. มีมติรับทราบ FT งวดเดือน ก.ย.-ธ.ค.66 ทำให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยปรับลดลงที่ 4.45 บาท/หน่วย จาก 4.70 บาท(พ.ค.– ส.ค.66) โดยมองเป็นจิตวิทยาลบต่อหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า SPP หากราคาอ่อนตัวเป็นจังหวะซื้อเน้น BGRIM แนะนำราคาเป้าหมาย 46 บาท ปัจจัยบวกจากกำไรไตรมาส 2/66 ที่ฟื้นตัวสูง คาดกำไรราว 698 ล้านบาท เทียบขาดทุน 193 ล้านบาท ในไตรมาส 2/65 และโต 75%เทียบไตรมาสก่อนหน้า และครึ่งปีหลัง 66 ที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง ด้าน GULF แนะนำราคาเป้าหมาย 55 บาท คาดกำไรไตรมาส 2/66 ที่ 3,765 ล้านบาท โต 22% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนน และโต 3% เทียบไตรมาสก่อนหน้า ตามโรงไฟฟ้าที่ COD มากขึ้น รวมถึง GPM การขายไฟ IU ที่ฟื้นตั้วตามค่าไฟ (Ft หนุน) ประเมินกำไรปี 66 ที่ 1.7 หมื่นล้านบาท โต 51% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน จากทั้งโรงไฟฟ้าใหม่ (COD + M&A) ในทางตรงข้ามมองเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มค้าปลีก CPALL แนะนำราคาเป้าหมาย 63.5 บาท, CRC แนะนำราคาเป้าหมาย Consensus 50.85 บาท, CPAXT แนะนำราคาเป้าหมายConsensus 41.6 บาท และกลุ่มสื่อสาร ADVANC แนะนำราคาเป้าหมาย 252 บาท, TRUE แนะนำราคาเป้าหมาย 46 บาท