สหรัฐ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในเช้าวันนี้ ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดพุ่งขึ้นกว่า 200 จุดเมื่อคืน โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกว่า มาตรการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าของทั้งฝั่งสหรัฐและจีนนั้น น่าจะยังไม่มีผลบังคับใช้ในทันที นอกจากนี้ นักลงทุนยังคาดว่า ข้อพิพาทด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะได้รับการแก้ไขผ่านการเจรจา โดย ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 21,541.18 จุด เพิ่มขึ้น 221.63 จุด, +1.04% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,426.92 จุด เพิ่มขึ้น 18.86 จุด, +0.78% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,389.19 จุด เพิ่มขึ้น 49.49 จุด, +1.48% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,824.46 จุด เพิ่มขึ้น 8.52 จุด, +0.47% ทั้งนี้ ตลาดหุ้นจีน ตลาดหุ้นฮ่องกง และตลาดหุ้นไต้หวัน ปิดทำการวันนี้เนื่องในเทศกาลเชงเม้ง ทั้งนี้ นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกว่า มาตรการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าของทั้งฝั่งสหรัฐและจีนนั้น น่าจะยังไม่มีผลบังคับใช้ในทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากการแสดงความเห็นของนายแลร์รี่ คุดโลว์ ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติประจำทำเนียบขาว ซึ่งกล่าวว่า การประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนอาจไม่มีการบังคับใช้จริงในที่สุด และทำงานของปธน.ทรัมป์ก็ต้องการที่จะเจรจากับจีน มากกว่าที่จะประกาศสงครามการค้า โดย นายคุดโลว์ยังกล่าวด้วยว่า มาตรการดังกล่าวของสหรัฐนั้น ถือเป็นกลยุทธ์ที่ใช้ในการบังคับให้จีนกลับมาเจรจาเกี่ยวกับพฤติกรรมทางการค้า พร้อมกล่าวว่า จริงๆแล้วปธน.ทรัมป์มีความเชื่อในเรื่องการค้าเสรี และต้องการแก้ไขปัญหานี้โดยให้เจ็บปวดน้อยที่สุด ขณะที่ นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนมี.ค.ของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ โดยนักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งคาดการณ์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้น 185,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 4.0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2543 หรือต่ำสุดในรอบกว่า 17 ปี จากระดับ 4.1% ในเดือนก.พ. ด้าน บล.เอเอสแอล คาด SET Index วันนี้มีโอกาสรีบาวด์ได้เล็กน้อยจากความกังวลต่อภาวะสงครามการค้าที่ลดลงในระดับหนึ่ง สะท้อนจากการฟื้นตัวของตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อคืนหลัง นายแลร์รี่ คุดโลว์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของ ทรัมป์ เผยว่าต้องการที่จะเจรจากับจีนมากกว่าประกาศสงครามการค้า ขณะที่มาตรการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าของทั้งฝั่งสหรัฐฯและจีนน่าจะยังไม่มีผลบังคับใช้ในทันที อย่างไรก็ตามการฟื้นตัวของดัชนียังคงเผชิญกับความเสี่ยงจากปัจจัยลบทั้งในและต่างประเทศ ขณะที่ยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามาสนับสนุน โดยหุ้นเด่นที่แนะนำวันนี้คือ BAFS, AAV, SCC, COM7