หุ้งแบงก์

“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจและรวบรวมบทวิเคราะห์ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในกลุ่มการเงินและการธนาคาร ที่จะทยอยประกาศผลการดำเนินงานออกมาในสัปดาห์นี้ เพื่อที่จะให้นักลงทุนสามารถวางกลยุทธ์รับมือภาวะตลาดที่ยังคงผันผวนสูงได้ เนื่องจากกลุ่มดังกล่าวมีมาร์เก็ตแคปสูง ซึ่งการปรับตัวขึ้นหรือลงของราคาหุ้นมีผลต่อทิศทางของดัชนี ทั้งนี้ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุในบทวิเคราะห์ (12 ต.ค.2563) โดยให้น้ำหนักการลงทุน กลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่ Underweight ประเมินกำไรสุทธิไตรมาส 3/2563 กลุ่มธ.พ.หดตัว 50% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน และทรงตัวจากไตรมาสก่อน โดยคาดว่าในไตรมาส 3/2563 กำไรสุทธิธนาคารพาณิชย์ 7 แห่งที่ทำการวิเคราะห์จะอยู่ที่ 23.1 พันล้านบาท หดตัว 50% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน และทรงตัวจากไตรมาสก่อน ธนาคารที่ประเมินว่าจะมีกำไรสุทธิเติบโตได้จากไตรมาสก่อน คือ BBL, KBANK และ TISCO เนื่องจากตั้งสำรอง ECL ลดลง เพราะตั้งไปมากในไตรมาส 3/63 สำหรับปัจจัยหลักในไตรมาส 3/2563 คือ รายได้ลดลง ตั้งสำรอง ECL สูงขึ้น คาดสินเชื่อไตรมาส 3/2563 ยังเติบโตต่อจากไตรมาสก่อน แต่รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NII) ลดลงจากไตรมาสก่อน เพราะ Yield ต่ำลงหลังจากลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลง ซึ่งทำให้ NIM แคบลง ส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมน่าจะดีขึ้นจากไตรมาสก่อน เพราะกิจกรรมทางเศรษฐกิจฟื้นตัวหลังปลด Lockdown ด้านรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย (Non-NII) คาดว่าจะอ่อนลงจากไตรมาสก่อน สำหรับการตั้งสำรอง (Credit cost) คาดว่าจะยังคงสูงต่อในไตรมาส 3/2563 ทั้งนี้ การตั้งสำรองในไตรมาส 4/2563 ยังคงสูงต่อ แม้ว่าตัวเลข NPL ratio จะไม่ได้เพิ่มขึ้นมาก ซึ่งเป็นเพราะมาตรการของธปท.ที่ให้ผ่อนปรนการชำระคืนหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยให้กับลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เป็นระยะเวลา 3-6 เดือน โดยสถาบันการเงินไม่ต้องจัดชั้นเป็นหนี้เป็น NPL จึงทำให้ NPL ratio อาจจะต่ำกว่าความเป็นจริง ดังนั้นในการจัดการอย่างระมัดระวังธนาคารพาณิชย์จึงน่าจะตั้งสำรอง ECL สูงต่อเนื่องถึงอย่างน้อยไตรมาส 4/63 โดยให้น้ำหนักการลงทุน Underweight โดยให้ TISCO เป็นหุ้น Top pick ทั้งนี้ด้วยสถานะเศรษฐกิจที่ยังอ่อนแอ มีโอกาสที่ NPL จะเพิ่มขึ้นต่อ และมีความเสี่ยงในด้านกฎเกณฑ์ต่างๆในอนาคต ดังนั้นเราจึงให้น้ำหนักการลงทุนกลุ่มธนาคารพาณิชย์เป็น Undeweight โดยมี TISCO เป็นหุ้นเด่น เพราะธนาคารบริหารงานอย่างอนุรักษ์นิยม, มี ROE สูงที่สุดในกลุ่ม และให้ปันผลสูง ด้าน บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า กลางเดือนนี้จะเข้าสู่ช่วงการรายงานผลประกอบการไตรมาส 3/63 ของกลุ่มธนาคาร โดยจาก 7 ธนาคาร ภายใต้ Coverage ของ CNS คาดจะรายงานกำไรสุทธิที่ 2.9 หมื่นล้านบาท -39.1% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน +6.8% จากไตรมาสก่อน โดยสาเหตุที่เติบโตจากไตรมาสก่อน หลักๆมาจากกำไรของ KBANK BBL ที่ฟื้นตัวเด่นมาก จากการตั้งสำรองที่ลดลง หลังเร่งตั้งไปในช่วงไตรมาส 2/63 ขณะที่ประเมิน SCB TMB กำไรจะถูกกดแรงจากการที่ต้องตั้งสำรองอย่างมีนัยในช่วงครึ่งปีหลัง โดยรวมประเมิน Outlook กลุ่มธนาคารยังไม่สดใส ขณะที่มีอีกหนึ่งประเด็นที่น่าติดตาม คือผล Stress Test คาดประกาศกลางเดือนต.ค. CNS ประเมินธนาคารที่มีโอกาสผ่านสูงสุดคือ TISCO เนื่องจากมีเงินในกองทุนสูง *ทั้งนี้ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆการตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน