หุ้นแบงค์ร่วง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นกลุ่มแบงก์ ณ เวลา 15.04 น. ปรับตัวลดลงถ้วนหน้า นำโดย SCB,TCAP,TMB,BAY,KBANK,BBL,TISCO,KTB,KKP โดยแรงเทขายหุ้นแบงก์เนื่องจากรับ Sentiment เชิงลบ รับข่าว ธปท.เล็งออกเกณฑ์คำนวณค่า Fee ช่วงไตรมาส 3/63 หวั่นฉุดรายได้ บล.เอเชีย เวลท์ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เตรียมออกแนวทางการคำนวณอัตราค่าธรรมเนียมของสถาบันการเงินช่วงไตรมาส 3/63 เพื่อเป็นแนวทางในการกำหนดค่าธรรมเนียมอย่างสมเหตุสมผล และเป็นธรรม โดยแนวทางดังกล่าวจะครอบคลุมค่าธรรมเนียมทุกประเภทนั้น ส่ง Sentiment เชิงลบต่อกลุ่มธนาคารพาณิชย์ จากรายได้ค่าธรรมเนียมที่อาจจะปรับตัวลดลงอีก หลังก่อนหน้านี้ทาง ธปท.ได้ออกเกณฑ์ปรับปรุงค่าธรรมเนียมใหม่สำาหรับลูกค้า SME อย่างไรก็ตามยังต้องรอรายละเอียดของแนวทางใหม่ก่อน ด้านบล.ไอร่า ระบุในบทวิเคราะห์ว่า แนะนำระมัดระวังแรงขายหุ้นในกลุ่มธนาคารอีกครั้ง หลัง ธปท. ออกมาส่งสัญญาณเตรียมปรับค่าธรรมเนียมธนาคารครอบคลุมกว่า 300 รายการ (ครอบคลุมค่า Fee ทุกประเภท) และจะเตรียมออกข้อปฏิบัติในไตรมาส 3/63 ซึ่งคาดจะส่งผลกระทบต่อรายได้ของในกลุ่มธนาคารกดดันราคาหุ้นปรับตัวลงถ่วงตลาดได้ โดยนางธัญญนิตย์ นิยมการ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน 2 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.เตรียมออกประกาศแนวทางการคำนวณอัตราค่าธรรมเนียมของสถาบันการเงินทั้งระบบในไตรมาส 3/2563 เพื่อเป็นแนวทางในการกำหนดค่าธรรมเนียมอย่างสมเหตุสมผลและเป็นธรรม โดยแนวทางดังกล่าวจะครอบคลุมค่าธรรมเนียมทุกประเภท ในทุกกลุ่มธุรกิจ ทั้งธุรกิจลูกค้ารายใหญ่ ลูกค้าขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) และลูกค้ารายย่อย รวมค่าธรรมเนียมทั้งหมดประมาณ 200-300 รายการ ทั้งนี้ ที่ผ่านมาธปท.กำหนดให้สถาบันการเงินปรับปรุงอัตราค่าธรรมเนียม 3-4 รายการ ตามต้นทุนที่เกิดขึ้นจริง เพื่อสร้างความเป็นธรรมและช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับผู้บริโภคและผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดยมีผลตั้งแต่เดือน ม.ค. 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการนำร่องก่อนการประกาศใช้แนวทางการคิดค่าธรรมเนียมทั้งระบบของธปท. นางอภิพันธ์ เจริญอนุสรณ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB กล่าวว่า กรณีที่ธปท.ให้มีการปรับค่าธรรมเนียมทั้งกระดาน เพื่อให้มีความเหมาะสมมากขึ้น เบื้องต้นคาดว่ามีผลกระทบต่อธนาคารแน่นอน แต่กระทบขนาดไหนนั้น ธนาคารอยู่ระหว่างการประเมินภาพรวมต่าง ๆ แต่เชื่อว่าจะไม่ทำให้รายได้ค่าธรรมเนียมหรือค่าฟีของธนาคารในปีนี้ติดลบ เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นไปตามเกณฑ์ที่ธปท.กำหนดอยู่แล้ว โดยเฉพาะค่าธรรมเนียมการชำระคืนก่อนกำหนด ที่เรียกว่า Prepayment Fee ที่ปัจจุบันธนาคารคิดจากวงเงินคงค้างอยู่แล้ว ไม่ได้คิดจากวงเงินรวมเดิม ทำให้ไม่กระทบ แต่ส่วนที่ต้องปรับเปลี่ยนการคิดค่าธรรมเนียมมากขึ้น อาทิ การคิดดอกเบี้ยกรณีผิดนัดชำระหนี้ สำหรับหนี้ที่เป็นเทอมโลน เอสเอ็มอี สินเชื่อบ้านต่าง ๆ ที่ต้องพิจารณาใหม่เพื่อให้เหมาะสมมากขึ้น นายฟิลิป แทน กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) หรือ KKP กล่าวว่า ธนาคารพร้อมปฏิบัติตามแนวทางและกฎระเบียบของธปท. โดยในภาพรวมอาจไม่ส่งผลกระทบต่อรายได้ค่าธรรมเนียมของธนาคาร เนื่องจากเป็นธนาคารขนาดเล็ก อย่างไรก็ตาม อาจต้องใช้เวลาในการปรับระบบการคำนวณค่าธรรมเนียมใหม่ให้สอดคล้องกับแนวทางที่ธปท.กำหนด ที่ผ่านมาธนาคารได้ลดค่าธรรมเนียมและอัตราดอกเบี้ยให้กับลูกค้าตามมาตรการของธปท. เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัว และธนาคารได้ให้ความช่วยเหลือลูกค้าตามแนวทางดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์ในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า และจะช่วยสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของธนาคารในระยะยาวต่อไป