อดีตผู้บริหาร KC

เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2568 เวลา 14.20 น. ชุดปฏิบัติการที่ 3 ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เข้าจับกุม นายเทพทิวา (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 83/2564 ซึ่งมีบทบาทช่วยเหลือกรรมการบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ในการยักยอกเงินจากการออกและเสนอขายตั๋วแลกเงินระยะสั้น (B/E) โดยรับโอนเงินผ่านบัญชีส่วนตัว และดำเนินธุรกรรมทางการเงินให้บุคคลอื่น ทำให้เกิดความเสียหายรวมกว่า 480 ล้านบาท คดีนี้เป็นคดีพิเศษที่ 151/2561 ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกองคดีการเงิน การธนาคารและการฟอกเงิน โดยก่อนหน้านี้ DSI ได้ดำเนินการจับกุมผู้เกี่ยวข้องมาแล้วหลายราย ล่าสุดพบว่าว่าที่ ร.ต.หญิง นิษฐา หรือจิรัชญา หรือจรูญลักษณ์ (สงวนนามสกุล) อดีตพนักงานบริษัทเดียวกัน มีพฤติการณ์ช่วยปลอมแปลงเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการออกและเสนอขาย B/E ให้กับธนาคาร อีกทั้งยังให้ใช้บัญชีเงินฝากของตนเองในการรับ-จ่ายเงินจากธุรกรรมดังกล่าว เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้บริหารในการกระทำผิด เจ้าหน้าที่ DSI ได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ต้องหาตามกฎหมายอาญาและพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 ก่อนควบคุมตัวส่งมอบให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรม การดำเนินการครั้งนี้เป็นไปตามข้อสั่งการของ พ.ต.ต. ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่มอบหมายให้ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว จัดชุดติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ โดยเฉพาะในคดีที่ใกล้หมดอายุความ เพื่อเร่งรัดนำตัวผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม โดยปฏิบัติการจับกุมครั้งนี้อยู่ภายใต้การอำนวยการของนายวิทวัส สุคันธรส ผู้อำนวยการศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว อนึ่งก่อนหน้านี้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้กล่าวโทษผู้บริหารและอดีตผู้บริหารบริษัท เค.ซี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ KC จำนวน 4 ราย ได้แก่ (1) นายภัทรภพ อิทธิสัญญากร (เปลี่ยนชื่อเป็นนายกฤติภัทร) (2) นายสรรชัย อินทรอักษร (3) นายธีราสิทธิ์ แสงเงิน (4) นายกิติสาร มุขดี และพวกอีก 3 ราย ได้แก่ (5) นายเทพทิวา บุตรพรม (6) นางสาวจรูญลักษณ์ คงคาเรียน (เปลี่ยนชื่อเป็น นางสาวนิษฐา) และ (7) นายวีรวัฒน์ สุขวราห์ ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กรณีร่วมกันทุจริต ยักยอกเงินที่ได้จากการออกและเสนอขายตั๋วแลกเงินระยะสั้น (B/E) ในนามบริษัท เพื่อประโยชน์ของตนเองหรือบุคคลอื่น แสวงหาประโยชน์ที่ไม่ควรได้ และยินยอมให้ไม่มีการลงบันทึกบัญชีการขายตั๋ว B/E ทำให้บริษัทลงบัญชีไม่ถูกต้อง ไม่ตรงต่อความเป็นจริง อย่างไรก็ตาม นายเทพทิวา บุตรพรม ถือเป็นผู้ต้องหารายสุดท้ายที่ทาง DSI สามารถจับกุมได้ในคดีดังกล่าว