อาร์อีเอส รีนิวเอเบิล เอนเนอร์ยี่ โซลูชั่น

บริษัท อาร์อีเอส รีนิวเอเบิล เอนเนอร์ยี่ โซลูชั่น (RES) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง บริษัท เอ็กโกเอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ เซอร์วิส จำกัด หรือ ESCO ในกลุ่มเอ็กโก และ บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ เซอร์วิส (แหลมฉบัง) บริษัทย่อยของ บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM จัดงานสัมมนาพร้อมเปิดตัว “เครื่องมือตรวจวัดประสิทธิภาพแผงโซลาร์เซลล์ที่มีความยาวมากกว่า 2 เมตร” เครื่องแรกในไทยและอาเซียน โดยเชิญกูรูมาช่วยแนะนำเทคโนโลยีและศักยภาพของเครื่องทดสอบแผงโซลาร์เซลล์ตามมาตรฐานสากล มุ่งตอบโจทย์เทรนด์การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งเป็นที่นิยมมากขึ้นทั้งจากองค์กรภาครัฐและเอกชนในปัจจุบัน รวมทั้งผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลาง ด้านเทคโนโลยีทดสอบแผงโซลาร์เซลล์ในภูมิภาคอาเซียน ด้านนายดอน ทยาทาน ประธานบริษัท RES และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานวิศวกรรม เทคโนโลยี และพัฒนาโครงการ บริษัท BGRIM กล่าวว่า “ปัจจุบันการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ได้รับความสนใจจากผู้ใช้งานทั้งภาคอุตสาหกรรมและครัวเรือนเป็นอย่างมาก โดยเห็นได้จากจำนวนของการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ทั้งแบบติดตั้งบนพื้นดินและติดตั้งบนหลังคา (Solar rooftop) ที่เพิ่มขึ้นทั้งจากการใช้งานของโรงงานอุตสาหกรรม นิคมอุตสาหกรรม กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันแผงโซลาร์เซลล์ มีขนาดใหญ่ขึ้นและใช้เทคโนโลยีซับซ้อนขึ้น เช่น แผงโซลาร์เซลล์แบบ 2 หน้า (Bifacial solar panels) ที่สามารถผลิตไฟฟ้าได้ทั้งจากด้านหน้าและด้านหลัง แต่ประเทศไทยยังขาดเครื่องมือที่สามารถตรวจวัดแผงโซลาร์เซลล์ลักษณะนี้ได้อย่างแม่นยำและครบถ้วน ดังนั้น การตรวจสอบประสิทธิภาพของแผงโซลาร์เซลล์จึงมีความสำคัญมาก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่องค์กรและผู้ที่ต้องการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ ทั้งในด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพ ซึ่งจะทำให้เกิดการใช้พลังงานทดแทนในภาพรวมของประเทศมากยิ่งขึ้นในอนาคต” นายสุทธิศักดิ์ แก้วมีแสง กรรมการผู้จัดการ ESCO ในกลุ่มเอ็กโก กล่าวว่า “ESCO ถือหุ้นทั้งหมดโดย EGCO Group มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการให้บริการงานเดินเครื่องและบำรุงรักษา (O&M) วิศวกรรม และการฝึกอบรมแก่โรงไฟฟ้าและโรงงานอุตสาหกรรมประเภทต่าง ๆ มากว่า 29 ปี การร่วมกันก่อตั้งบริษัท RES เพื่อลงทุนเครื่องมือทดสอบตรวจวัดประสิทธิภาพของแผงโซลาร์เซลล์รุ่นใหม่ที่มีความยาวเกิน2 เมตร นับเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญในการพัฒนานวัตกรรมและองค์ความรู้ด้านวิศวกรรมเพื่อสนับสนุนและต่อยอดธุรกิจการตรวจสอบประสิทธิภาพของแผงโซลาร์เซลล์ โดยการร่วมกันของ ESCO BGRIM และศูนย์พัฒนามาตรฐานและทดสอบระบบเซลล์แสงอาทิตย์ (CSSC) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) เพื่อให้ประเทศไทยมีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานสากล และสามารถใช้ได้ทั้งในประเทศและในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องแรกในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียนและเป็นนวัตกรรมที่สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีของแผงโซลาร์เซลล์ในปัจจุบัน ทั้งนี้ ESCO จะสนับสนุนอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนา เช่น อุปกรณ์และเครื่องมือทดสอบหรือซอฟท์แวร์ รวมทั้งบุคลากร ที่มีความเชี่ยวชาญในการดำเนินงานร่วมกัน เราเชื่อมั่นว่าความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มและความสามารถในการแข่งขันให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย ตลอดจนสร้างมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรมพลังงานสะอาด และผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีทดสอบแผงเซลล์แสงอาทิตย์ในภูมิภาคอาเซียน” ผศ. ดร.บุณยพัต สุภานิช ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาและฝึกอบรมโรงงานต้นแบบ (สรบ.) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) กล่าวว่า “มจธ. ถือเป็นสถาบันการศึกษาที่ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาและส่งเสริมด้านเทคโนโลยีอยู่เสมอ ดังจะเห็นได้จากผลงานด้านวิชาการและการผลิตนวัตกรรมต่าง ๆ เพื่อตอบโจทย์การใช้งานของภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรม มจธ. ได้จัดเตรียมระบบการเดินเครื่องและการบำรุงรักษาเครื่องมืดทดสอบ ขั้นตอนในการตรวจสอบการใช้งาน ซึ่งได้รับมาตรฐานห้องปฏิบัติการทดสอบ ISO/IEC17025 ถือเป็นการใช้ความเชี่ยวชาญของทางสถาบัน เพื่อพัฒนาการใช้งานพลังงานทดแทนให้มีคุณภาพและประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และยังเป็นการสร้างประสบการณ์ในการดำเนินโครงการร่วมกับหน่วยงานชั้นนำซึ่งจะเป็นการพัฒนาบุคคลากรของ มจธ.ด้วยเช่นกัน” ทั้งนี้ องค์กรและหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนที่สนใจสามารถใช้บริการเครื่องทดสอบประสิทธิภาพของแผงโซลาร์เซลล์ที่มีความยาวมากกว่า 2 เมตร และใช้เทคโนโลยีที่ซับซ้อน ซึ่งเป็นเครื่องแรกในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน ได้ที่ศูนย์ทดสอบ CSSC มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) โดยจะมี ผู้ปฏิบัติการของศูนย์ทดสอบ CSSC เป็นผู้ทำการทดสอบและบำรุงรักษา (ผู้ปฏิบัติการและห้องปฏิบัติการของศูนย์ทดสอบ CSSC ผ่านการรับรองระดับสากลแล้ว) ในทุกวันและเวลาทำการ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทร. 02-470-7445 หรืออีเมล ces@kmutt.ac.th