เงินบาท

บล.กสิกรไทย ระบุในบทวิเคราะห์ (23 ก.ย.) แนะนำสะสมหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า (SVI, VNG) สำหรับบริษัท วนชัย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ VNG ให้ราคาเหมาะสมทางพื้นฐาน 15.22 บาท (IAA consensus) เป้าหมายทางกลยุทธ์ระยะสั้นที่ 14.50 ตัดขาดทุนที่ 13.00 บาท ทั้งนี้ บริษัทประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายแผ่นไม้สำเร็จรูป (Particle board และ MDF) ขณะที่จะได้ประโยชน์จากเงินบาทที่อ่อนค่า โดยรายได้ราว 65-70% มาจากการส่งออก ด้านแนวโน้มอัตรากำไรอยู่ในระดับที่ดีจาก 1) ราคาไม้ยาง (40% ของ COGS) มีแนวโน้มอ่อนตัวตามนโยบายโค่นต้นยางของภาครัฐ และราคากาว (Urea และ Methanol ซึ่งคิดเป็น 30% ของ COGS) อ่อนตัวลงตามราคาน้ำมัน นอกจากนี้ยังมีแผนลงทุนโรงไฟฟ้าชีวมวลจำนวน 9.9 MW ซึ่งใช้ Feedstock จากเศษไม้ของโรงงานเอง บล.เคเคเทรด ระบุในบทวิเคราะห์ (23 ก.ย.) แนะนำหุ้นบริษัท เอสวีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ SVI (มูลค่าเหมาะสม 5.30 บาท) เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากการอ่อนค่าของเงินบาท โดยเงินบาทที่อ่อนค่า 1 บาท/เหรียญฯ หนุนกำไรสุทธิ SVI ให้เพิ่มขึ้นราว 2.2%, ไตรมาส 3 ของทุกปีเป็น High season ของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ขณะที่บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (23 ก.ย.) ว่า ระยะสั้นแนะนำ “เก็งกำไร” กลุ่มที่ได้ผลดีจากการอ่อนค่าของค่าเงินบาทเช่นกัน อย่างกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ โดยแนะนำ SVI ด้านเทคนิคราคาหุ้นแกว่งตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 1 เดือน เครื่องมือ DI+ ยังชี้ขึ้นต่อเนื่อง มีเป้าหมายการปรับสูงขึ้นที่ 5.10 บาท หากผ่านได้มีแนวต้านถัดไปที่ 5.30 บาท เป็นจุดขายทำกำไร แนะนำ “ซื้อ” ทั้งนี้ ค่าเงินบาทล่าสุดอยู่ที่ 36.16 บาท/ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง 0.1120 หรือ 0.31% ถือเป็นการอ่อนค่าต่ำสุดในรอบ 6 ปี ขณะที่ราคาหุ้น VNG ปิดตลาดช่วงเช้า อยู่ที่ 13.80 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง สูงสุดที่ 14.00 บาท ต่ำสุดที่ 13.60 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 85.22 ล้านบาท ส่วน SVI อยู่ที่ 4.98 บาท บวก 0.02 บาท หรือ 0.40% สูงสุดที่ 5.00 บาท ต่ำสุดที่ 4.94 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 15.88 ล้านบาท ขณะที่ตลาดหุ้นไทยโดยรวมลบ 0.95%