เบนจามิน เนทันยาฮู

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ประกาศว่าเขาจะชะลอประเด็นหลักของแผนการยกเครื่องกระบวนการยุติธรรม หลังจากเกิดความวุ่นวายทั่วประเทศ เมื่อคนงานเข้าร่วมการนัดหยุดงานประท้วง เพื่อต่อต้านข้อเสนอดังกล่าว โดยผู้ประท้วงหลายแสนคนพากันออกมาเดินขบวนบนท้องถนน โดยแผนปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมของผู้นำอิสราเอลในครั้งนี้ จะเป็นการมอบอำนาจในการควบคุมการแต่งตั้งตุลาการแก่ฝ่ายบริหาร และให้อำนาจแก่รัฐสภาในการล้มล้างคำตัดสินของศาลฎีกา ซึ่งแผนดังกล่าวจุดชนวนวิกฤตความวุ่นวายภายในประเทศ ที่ใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของอิสราเอล ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู ได้แถลงขอโทษประชาชนในช่วงค่ำของวันจันทร์ที่ 27 มีนาคม ตามเวลาท้องถิ่น โดยให้ระงับแผนดังกล่าวจนกว่ารัฐสภาจะกลับมาทำงานอีกครั้งหลังจากหยุดเทศกาลปัสกาและวันชาติในเดือนหน้า และระบุว่าวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ทุกฝ่ายต้องแสดงความรับผิดชอบ สำหรับแถลงการณ์ของผู้นำอิสราเอลมีขึ้น ท่ามกลางฝูงชนจำนวนมากรวมตัวกันในกรุงเยรูซเล็มและเทลอาวีฟ เพื่อออกมาประท้วงต่อต้านแผนการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมของนายเนทันยาฮู ซึ่งการรวมตัวกันจำนวนมหาศาลของผู้คนในครั้งนี้ก่อให้เกิดความหวาดกลัวว่าอาจเกิดความรุนแรงขึ้นระหว่างทั้ง 2 ฝ่าย แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีรายงานความความรุนแรงเกิดขึ้น โดยในช่วงที่ผ่านมา นายเนทันยาฮูและผู้สนับสนุนของเขาพยายามกล่าวว่า แผนดังกล่าวจะช่วยสร้างความสมดุลที่เหมาะสมระหว่างรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งและองค์กรตุลาการและจะไม่เป็นการคุกคามสิทธิส่วนบุคคลและชนกลุ่มน้อย อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวได้รับแรงต่อต้านจากสังคมอย่างรุนแรง ทั้งนี้ผู้ประท้วงหลายแสนคนพากันออกมาเดินขบวนตามท้องถนนในกรุงเยลูซาเล็ม และเทลอาวีฟ รวมถึงเมืองอื่นๆ มาเป็นเวลาหลายเดือน เพื่อประท้วงแผนการที่หลายฝ่ายมองว่าจะเป็นบ่อนทำลายกระบวนการตรวจสอบและความสมดุลในการปกป้องประชาธิปไตยของอิสราเอล ขณะเดียวกันนายเนทันยาฮู ที่กำลังถูกพิจารณาคดีในข้อหาคอร์รัปชั่นซึ่งเขาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยเคยให้คำมั่นก่อนหน้านี้ว่าการยกเครื่องกระบวนการยุติธรรมจะไม่เป็นภัยคุกคามต่อสิทธิส่วนบุคคล สำหรับการตัดสินใจระงับแผนการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมในครั้งนี้เกิดขึ้น หลังจาก นายโยอาฟ กัลแลนท์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล ถูกปลดออกจากตำแหน่ง หลังจากออกมาเตือนว่าแผนดังกล่าวจะสร้างความแตกแยกขึ้นภายในประเทศ และจะส่งผลกระทบต่อกองทัพ รวมถึงคุมคามความมั่นคงของประเทศด้วย ซึ่งผลจากการสั่งปลดนายกัลแลนท์ ของนายเนทันยาฮูในครั้งนี้ ทำให้การชุมนุมต่อต้านกฎหมายฉบับนี้ เริ่มขยายตัวมากขึ้นเป็นหลักแสนคนประกาศนัดหยุดงานขององค์กรสหภาพแรงงาน Histadru ส่งผลให้เที่ยวบินของสนามบินเบน กูเรียน ต้องถูกระงับ ธุรกิจต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นธนาคาร ตลอดจนร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดอย่าง McDonald ต้องปิดให้บริการ ขณะที่ค่าเงินเชเกลของอิสราเอลพุ่งขึ้นในช่วงแรก หลังการประกาศระงับแผนการดังกล่าวของนายเนทันยาฮู ที่ยังไม่มีความแน่ชัดว่าจะนำกลับมาพิจารณาอีกเมื่อไหร่ ทั้งนี้ อิสราเอลกำลังเผชิญกับปัญหาหลายด้านไม่ว่าจะเป็นการสู้รบในเขตเวลส์แบงค์ที่ยืดเยื้อมานาน และความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน รวมถึงการสั่งปลดนาย กัลแลนท์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอลออกจากตำแหน่ง ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้ล้วนทำให้ชาติเสียประโยชน์ ด้านพรรคฝ่ายค้าน แสดงการตอบรับต่อการตัดสินใจระงับแผนการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ของนายเนทันยาฮู ในครั้งนี้ เพื่อให้มีเวลาบรรลุข้อตกลงดังกล่าว ท่ามกลางความไม่ไว้วางใจของผู้ประท้วง