เลขาธิการกกต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (13 ก.ย. 2568) นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงข้อสงสัยกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ว่าจะมีผลต่อการดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยหรือไม่ โดยระบุว่า ตำแหน่งหัวหน้าพรรคการเมืองถือเป็นหนึ่งในกรรมการบริหารพรรค และต้องมีคุณสมบัติเป็นสมาชิกพรรค ทั้งนี้ ตนยังไม่ได้เห็นคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในรายละเอียด นายแสวง ชี้แจงว่า เหตุที่จะทำให้บุคคลพ้นจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคการเมืองมี 2 กรณี คือ 1. ถูกคณะกรรมการจริยธรรมของพรรคมีมติขับออกจากตำแหน่ง ซึ่งยังสามารถคงสถานะการเป็นสมาชิกพรรคได้ และ 2. พ้นจากการเป็นสมาชิกพรรค ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาให้พ้นตำแหน่งเท่านั้น แต่ในกรณีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ถือว่าเป็นคนละลักษณะ จึงยังไม่เข้าเกณฑ์ตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ นายแสวง กล่าวว่า กรณีการพ้นจากตำแหน่งกรรมการบริหารพรรค อาจมีบางฝ่ายมองว่าเป็นการพ้นโดยปริยาย แต่ตามหลักกฎหมายยังคงต้องเป็นไปตามขั้นตอนและการมีมติของคณะกรรมการบริหารพรรคเอง ซึ่ง กกต. ไม่สามารถเข้าไปก้าวก่ายได้ ขณะที่สถานะการเป็นสมาชิกพรรคจะพ้นได้ก็ต่อเมื่อมีคำพิพากษาของศาลฎีกาฯ ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่มีคำพิพากษาดังกล่าว นายแสวง ระบุด้วยว่า การทำหน้าที่ของนายทะเบียนพรรคการเมืองจะตรวจสอบเพียงข้อบังคับของพรรคว่าดำเนินการตามกฎหมายหรือไม่ ส่วนกิจกรรมภายในพรรคเป็นหน้าที่ที่พรรคต้องจัดการเอง หากไม่ดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนดก็จะมีสมาชิกพรรคเข้ามาร้องเรียนในที่สุด โดยย้ำว่าการพ้นจากตำแหน่งสมาชิกพรรคหรือกรรมการบริหารพรรคถือเป็นเรื่องภายในของพรรคการเมือง นายแสวง กล่าวเพิ่มเติมว่า สาระสำคัญตามหลักการ คือแม้จะถือว่าพ้นจากตำแหน่งแล้ว แต่ยังต้องรอกระบวนการยืนยัน เช่น การพ้นจากตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ต้องรอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย แม้จะมีข้อเท็จจริงที่ชัดเจนอยู่แล้วก็ตาม ดังนั้นตราบใดที่เรื่องจริยธรรมไม่ได้เข้าสู่การพิจารณาของศาลฎีกาฯ หรือคณะกรรมการบริหารพรรคยังไม่มีมติ กรณีดังกล่าวก็ยังไม่ถือว่ามีผลตามกฎหมาย