โดรนเกษตร

สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) หรือ CAAT ออกประกาศฉบับที่ 3 ยังคงห้ามทำการบินอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน (โดรน) ทุกประเภททั่วราชอาณาจักร จนถึงวันที่ 15 สิงหาคม 2568 หรือจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง เพื่อความมั่นคงและความปลอดภัยทางการบินในช่วงสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป CAAT จะผ่อนปรนอนุญาตเฉพาะการบินโดรนเพื่อการเกษตร ภายใต้เงื่อนไข ได้แก่ ผู้บังคับและตัวโดรนต้องขึ้นทะเบียนกับ CAAT ครบถ้วนและยังไม่หมดอายุ, ได้รับอนุญาตปฏิบัติการบินเพื่อการเกษตร, ไม่มีประวัติฝ่าฝืนหรือถูกเพิกถอนสิทธิการบิน, ทำการบินเฉพาะในพื้นที่เกษตรของตนหรือได้รับอนุญาตจากเจ้าของพื้นที่, แจ้งการบินล่วงหน้าอย่างน้อย 12 ชั่วโมง ผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน UAS Portal ของ CAAT หรือช่องทางที่กำหนด, ความสูงการบินไม่เกิน 30 เมตร, ทำการบินได้ระหว่างเวลา 06.00–18.00 น. และใช้เพื่อโปรยหรือหว่านสารเพื่อการเกษตร น้ำ หรือปุ๋ยเท่านั้น ห้ามใช้เพื่อถ่ายภาพหรือสำรวจ นอกจากนี้ CAAT กำหนดพื้นที่ห้ามบินโดรนทุกประเภทโดยเด็ดขาด ได้แก่ พื้นที่หวงห้าม/อันตรายตามประกาศ AIP Thailand (16 พื้นที่หลัก อาทิ ศรีสะเกษ, นครสวรรค์, จันทบุรี, ตราด, ราชบุรี, นครราชสีมา, อุบลราชธานี), จังหวัดชายแดนที่ประกาศกฎอัยการศึกหรือมีกองกำลังปฏิบัติการภาคพื้น (7 จังหวัด), อำเภอสัตหีบ จ.ชลบุรี, อำเภอเมือง จ.ระยอง, รัศมี 9 กิโลเมตรรอบสนามบินและจุดขึ้นลงอากาศยานทุกแห่ง และพื้นที่ที่หน่วยงานความมั่นคงประกาศเพิ่มเติม ผู้ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยเจ้าหน้าที่มีอำนาจทำลายหรือตอบโต้อากาศยาน รวมถึงใช้ระบบต่อต้านอากาศยานไร้นักบิน (Anti-Drone System) ได้ สอบถามข้อมูลหรือแจ้งการฝ่าฝืนได้ที่ CAAT โทร. 02-568-8851 (ในเวลาราชการ) อีเมล uas_us@caat.or.th หรือ ศตอ.น. โทร. 02-126-7846 อีเมล antidrone.police@gmail.com รวมถึงสถานีตำรวจ หน่วยทหาร หรือหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่