TIPCO

บล.ดีบีเอสฯ ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (23 มิ.ย.) ว่าบริษัท ทิปโก้ฟูดส์ จำกัด (มหาชน)หรือ TIPCO ได้ประโยชน์จากการมีหุ้น TASCO ในต้นทุนต่ำ มูลค่าทางบัญชีหลังปรับปรุงจะเปลี่ยนแปลงตามราคาหุ้น TASCO หากใช้ราคาหุ้น TASCO ล่าสุดที่ 20.20 บาท และจากมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้นของ TIPCO ณ สิ้น ไตรมาส1/58 เป็น 5.47 บาท หากปรับปรุงด้วยกำไรหลังภาษีของ TASCO ต่อหุ้น TIPCO ที่ 9.74 บาท จะได้มูลค่าทางบัญชีใหม่เป็น 15.21 บาท หากเทียบกับราคาปิด TIPCO ที่ 13.10 บาท ยังมีส่วนเพิ่มได้อีก 16% มูลค่าทางบัญชีหลังปรับปรุง ที่ราคาพื้นฐาน TASCO จะเป็นเท่าใด หากศึกษาความอ่อนไหว (sensitivity) ที่ราคาหุ้น TASCO 22.00 บาท ซึ่งเป็นราคาพื้นฐานของ DBSV พบว่า มูลค่าทางบัญชีหลังปรับปรุงของ TIPCO เป็น 16.33 บาท ซึ่งผลปรากฎตามตารางด้านล่าง และจะคิดเป็นส่วนเพิ่มถึง 25% และในทางกลับกันหากเราต้องการศึกษาว่าที่ราคาหุ้น TASCO เท่าใด จะส่งผลให้มูลค่าทางบัญชีหลังปรับปรุงของ TIPCO ไม่มีกำไรเทียบกับราคาหุ้นปัจจุบัน พบว่าราคาหุ้น TASCO เป็น 16.90 บาท และ TIPCO มีมูลค่าทางบัญชีเป็น 13.16 บาท ซึ่งแทบไม่มีกำไรเมื่อเทียบกับราคาหุ้นปัจจุบันของ TIPCO แต่โอกาสยังเกิดขึ้นยาก เพราะนั่นหมายถึง ราคาหุ้น TASCO ต้องปรับลงถึง 16% กำไร ไตรมาส1/58 ของ TIPCO ฟื้นตัวสูงมาก หากพิจารณากำไรสุทธิ ไตรมาส1/58 ที่ผ่านมาสูงเป็น 319 ล้านบาท เพิ่มจาก เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 59 ล้านบาท ถึง 441% โดยมีการรับรู้กำไรตามส่วนได้เสียจาก TASCO ซึ่ง TIPCO ถือหุ้นอยู่ 24.33% เป็น 276 ล้านบาท หากไม่นับกำไรเฉพาะของ TIPCO เองเป็น 43 ล้านบาท ขณะที่ เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็น -3 ล้านบาท แสดงว่ากำไรของ TIPCO เองก็ฟื้นตัวดีขึ้น คาดการณ์กำไรปีนี้ของ TIPCO สดใสมาก เพราะคาดว่าจะรับรู้กำไรจาก TASCO ถึง 772 ล้านบาท และแม้ให้ TIPCO ไม่มีกำไรอีกเลยตั้งแต่ไตรมาส 2-ไตรมาส4/58 พบว่ากำไรปีนี้ของ TIPCO เป็น 815 ล้านบาท คิดเป็น 10 เท่าตัวของกำไรปี 57 ที่ 78 ล้านบาททีเดียว แต่คาดว่าในไตรมาสที่เหลือปีนี้ของ TIPCO จะมีกำไร เพราะ 1) ใช้กลยุทธ์ลดค่าใช้จ่ายทางการตลาดลง ทำให้ค่าใช้จ่ายในการขายลดลงได้ดี 2) แก้ปัญหาสัปปะรดขาดแคลนด้วยการร่วมมือกับเกษตรกร และ 3) ได้ประโยชน์จากบาทอ่อนค่า เพราะมีสัดส่วนการส่งออกที่สูง คงคำแนะนำซื้อ ราคาพื้นฐานใหม่ปรับเพิ่มเป็น 16.89 บาท ราคาปิดมีส่วนเพิ่มถึง 29% ซึ่งประเมินด้วย P/E ปี 58 ที่เพียง 10 เท่า ขณะที่กลุ่มอาหารมี P/E ปัจจุบันที่ 19.7 เท่า และธุรกิจน้ำผัก-ผลไม้ และน้ำดื่มเพื่อสุขภาพไม่เกี่ยวข้องกับโรคเมอร์สที่ติดต่อทางลมหายใจ อีกทั้งหากพิจารณามูลค่าทางบัญชีหลังปรับปรุงของ TIPCO ตามราคาหุ้น TASCO ในปัจจุบัน ก็ยังมีส่วนเพิ่ม 16% ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น