เคาะ 11 หุ้นฟอร์มดีสวนทางดัชนีอ่อนตัว

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้มีแนวโน้มถูกกดดันต่อเนื่องจึงมีโอกาสปรับตัวลงต่อ ขณะที่ความเสี่ยงจากภายนอกยังคงอยู่ ส่วนปัจจัยในประเทศหุ้นกลุ่มหลักอย่างพลังงาน, ธนาคาร และสื่อสาร ยังถูกกดดันจากปัจจัยลบ การลงทุนเน้นไปที่กลุ่มที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว และกลุ่มที่แนวโน้มผลประกอบการไตรมาสแรกดีเป็นหลัก


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.20 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 34.36 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวลง ตามทิศทางของตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดร่วงลงเมื่อคืน โดยได้รับปัจจัยลบจากการร่วงลงอย่างหนักของราคาน้ำมัน ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่นบวกหลังจากสกุลเงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้มีแนวโน้มถูกกดดันต่อเนื่องจึงมีโอกาสปรับตัวลงต่อ ขณะที่ความเสี่ยงจากภายนอกยังคงอยู่ ส่วนปัจจัยในประเทศหุ้นกลุ่มหลักอย่างพลังงาน, ธนาคาร และสื่อสาร ยังถูกกดดันจากปัจจัยลบ การลงทุนเน้นไปที่กลุ่มที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว และกลุ่มที่แนวโน้มผลประกอบการไตรมาสแรกดีเป็นหลัก หุ้นเด่นเลือก ERW-KKP-LH-PTTGC-BANPU-TACC-KKP-BIG-HANA-TASCO และ AOT

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (20 เม.ย.) ประเมินทิศทางดัชนี SET มีโอกาส Sideway Down ลงสู่ระดับแนวรับที่ 1,550 – 1,558 จุด จากการ Sell On Fact ของหุ้นกลุ่มธนาคารหลังจากสินเชื่อยังขยายตัวได้น้อย หุ้นแนะนำวันนี้ดูไปที่กลุ่มท่องเที่ยว เช่น ERW (ราคาเป้าหมาย 5.40 บาท) คาดได้แรงหนุนจากการท่องเที่ยวฟื้นตัวในไตรมาส 1/60

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (20 เม.ย.) ว่า SET มีแนวโน้มถูกกดดันต่อเนื่องไปที่แนวรับ 1,564 จุด หรือต่ำกว่านั้น ด้วยแนวรับหลักอิงเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันบริเวณ 1,520 +/- จุด จาก 1) NPL ในระบบธนาคารที่ยังสูง เป็นปัจจัยกดดันธนาคารขนาดใหญ่ที่ราคาหุ้นปรับสูงขึ้นก่อนหน้านี้ 2) สต็อกน้ำมันเบนซินสหรัฐฯ 1.54 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์ที่ผ่านมา มากกว่าที่คาดไว้ว่าจะลดลง 2 ล้านบาร์เรล กดดันราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับลดลงกว่า 3% เมื่อคืนนี้ เป็นปัจจัยกดดัน Dow Jones -0.58% และจะเป็นปัจจัยกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน อย่าง PTT PTTEP วันนี้มองความเสี่ยงที่ relief rally ที่เกิดขึ้นตั้งแต่กลางเดือนก่อน กำลังจะจบลงเร็วๆ นี้ ด้วยแนวรับวันนี้ 1,564 จุด และระยะสัปดาห์ 1,520 +/- จุด

แนะนำ “ลด” สัดส่วนหุ้นในพอร์ต หลัง SET ปรับลดลงต่ำกว่า Trailing Stop ที่ 1,575 จุด ประกอบกับปริมาณการขายหนาแน่นขึ้นเป็นกว่า 4 หมื่นล้านบาทวานนี้ ขณะที่แนะนำ “ซื้อ” 1) KKP  รับปันผลเกือบ 6% ปลายเดือนนี้ มองไม่มีแรงกดดันจาก NPL เหมือนธนาคารขนาดใหญ่ 2) LH  ยอดขาย Presale ไตรมาส 1/17 แข็งแรง สูงสุดในรอบ 4 ไตรมาส, Rental income ยังขยายตัว 24% และ ปันผลเกือบ 7% เป็น downside protection

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (20 เม.ย.) มองภาพเป็นลบ คาด SET มีโอกาสลงต่อ ความเสี่ยงจากภายนอกยังคงอยู่โดยฝรั่งเศสจะจัดการเลือกตั้งในวันที่ 23 เม.ย.ขณะที่สถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลียังไม่แน่นอน ส่วนปัจจัยในประเทศวันนี้หุ้นกลุ่มหลัก พลังงาน ธนาคาร และ สื่อสาร ยังถูกกดดัน โดยพลังงานถูกดันจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลงแรงกว่า 3.8% หลังสต๊อกน้ำมันเบินซินพุ่งขึ้นเกินคาด ขณะที่กลุ่มธนาคารปัญหา NPLs ยังกดดันวันนี้ BBL ขึ้น XD (4.5 บาท) คาดกระทบ SET 0.89 จุด และต้องลุ้นงบของ KBANK BBL และ SCB โดย NPLs ต้องไม่แย่เหมือน KTB และ TMB ถึงจะมีลุ้นกลับมาฟื้นตัว

ส่วนกลุ่มสื่อสารวันนี้ติดตาม TOT ประกาศรายชื่อผู้ชนะที่จะร่วมเป็นพันธมิตรในการพัฒนาคลื่น 2300 MHz หาก ADVANC และ DTAC ไม่ใช่อาจมีแรงขายเพิ่ม กลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้จึงเน้นรอซื้อเมื่อดัชนีอ่อนตัว เน้นหุ้นที่แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 1/17 จะออกมาดีเป็นหลัก อาทิ PTTGC, BANPU, TACC, KKP, BIG,HANA และ TASCO

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : AOT (ซื้อ/เป้า 46.00 บาท) คาดกำไรสุทธิไตรมาส 1/17 ปรับตัวขึ้นทั้งจากไตรมาสก่อน และไตรมาสเดียวกันในปีก่อนจากจำนวนผู้โดยสาร(Passenger volume) ปรับตัวขึ้น 8% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน ขณะที่จำนวนเที่ยวบิน และรายได้ค่าสัมปทาน ปรับตัวขึ้นจากการรับรู้รายได้จากเปิดใช้ Terminal ใหม่ของสนามบิน ดอนเมืองและภูเก็ต

Back to top button