จับตา BIZ วิ่งยาวถึง 4.80 บ. รับผลงานปีนี้แจ่ม รายได้ทะลุ 800 ลบ.

จับตา BIZ วิ่งยาวถึง 4.80 บ. ชูอัพไซด์ 26.32% รับผลงานปีนี้แจ่ม ลุ้นรายได้ทะลุ 800 ลบ. กำไรโต 44%


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (10 ม.ค.) ราคาหุ้น บริษัท บิสซิเนสอะไลเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ BIZ ปรับตัวเพิ่มขึ้นและมีมูลค่าการซื้อขายเข้ามาอย่างมากผิดปกติ โดยมีมูลค่าถึง 6.22 ล้านบาท จากปกติจะมีมูลค่าการซื้อขายโดยเฉลี่ยที่หลักแสนบาท โดยปิดตลาดที่ 3.80 บาท บวก 0.38 บาท หรือเพิ่มขึ้น 11.11% 

โดยราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากที่วานนี้บริษัทฯระบุว่า ที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้มีมติอนุมัติการลงทุนในโครงการโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านการรักษาโรคมะเร็ง โดยจัดตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อดำเนินโครงการโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านการรักษาโรคมะเร็ง ซึ่งเป็นการจัดตั้งโรงพยาบาลสำหรับการรักษาโรคมะเร็งโดยเฉพาะ ตั้งอยู่ที่ถนนศรีราชา-หนองค้อ ตำบลหนองขาม อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี และมีมูลค่าการลงทุนประมาณ 500 ล้านบาท (รวมมูลค่าที่ดิน) ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในปี 62

ทั้งนี้ จัดตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อดำเนินโครงการโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านการรักษาโรคมะเร็ง ด้วยทุนจดทะเบียนจำนวน 200 ล้านบาท โดย BIZ จะใช้แหล่งเงินทุนในการลงทุน ตามสัดส่วนการถือหุ้น จำนวนประมาณ 200 ล้านบาท โดยเป็นเงินทุนจากบริษัท จำนวนประมาณ 130 ล้านบาท และเงินทุนจากกลุ่มผู้ร่วมทุน ประมาณ 70 ล้านบาท และเงินกู้ยืมจากสถาบันทางการเงินภายใต้บริษัทร่วมทุน จำนวนประมาณ 300 ล้านบาท

ด้าน นายสมพงษ์ ชื่นกิติญานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BIZ คาดว่าการลงทุนครั้งนี้ จะเป็นการเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจในระยะยาว รวมทั้งเพิ่มแหล่งรายได้เพื่อกระจายความเสี่ยงไปสู่ธุรกิจอื่น นอกจากนี้ ยังเป็นการเพิ่มโอกาสในการมีรายได้และสร้างกระแสเงินสดที่มีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น ผลักดันผลการดำเนินงานในอนาคตเติบโตอย่างก้าวกระโดด

อนึ่ง ก่อนหน้านี้ นายสมพงษ์ ได้เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ในปี 61 กลับมาเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปริมาณการขายและคำสั่งซื้อมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ตามภาพรวมอุตสาหกรรมการแพทย์ที่ฟื้นตัวขึ้น และจะรักษาอัตรากำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 15% ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับสภาวะการแข่งขัน ตลอดจนความต้องการเข้าร่วมประมูลงานของบริษัทฯเองด้วย

ขณะที่ปัจจุบันมีมูลค่างานในมือ (backlog) ราว 1.35 พันล้านบาทที่จะทยอยรับรู้รายได้ และอยู่ระหว่างยื่นประมูลงานใหม่อีกกว่า 800-1,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นงานของภาครัฐ โดยจะทยอยรู้ผลตั้งแต่ไตรมาส 1/61 คาดหวังจะได้งานไม่ต่ำกว่า 50%

ส่วนผลประกอบการในปี 60 รายได้และกำไรปรับตัวลดลงต่ำกว่าปีก่อน เนื่องจากในปี 59 มีการรับรู้รายได้เร็วกว่ากำหนดเดิมที่จะต้องรับรู้ในปีนี้ และในปีนี้จะมีการทยอยรับรู้รายได้จากงานของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์บางส่วน

ด้าน บล.โกลเบล็ก ระบุในบทวิเคราะห์ (28 ธ.ค.) แนะนำ “ถือ” ราคาเป้าหมาย 4.80 บาท/หุ้น โดยคาดการณ์ว่า กำไร BIZ ในไตรมาส 4/60 อ่อนตัวลง 33% จากไตรมาสก่อนจากรายได้จากการขายที่ลดลง ซึ่งคาดว่าไตรมาส 4/60 จะมีรายได้รวมราว 150 ล้านบาทลดลง 13% จากไตรมาสก่อนโดยมีสาเหตุหลักมาจากรายได้จากการขายที่ลดลงตามมูลค่าการส่งมอบเครื่องฉายรังสี

โดยในไตรมาส 4/60 คาดว่าบริษัทจะส่งมอบเครื่องฉายรังสีให้แก่โรงพยาบาลในประเทศกัมพูชามูลค่า 70 ล้านบาท (มูลค่าส่งมอบเครื่องฉายรังสีในไตรมาส 3/60 อยู่ที่ 85 ล้านบาท) อย่างไรก็ตามคาดว่ารายได้จากการบริการและรายได้จากการก่อสร้างจะทรงตัวที่ 75 ล้านบาทใกล้เคียงไตรมาสก่อน

ขณะที่คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะทรงตัวที่ 17% จากสัดส่วนรายได้จากการขาย รายได้จากการบริการ และรายได้จากการก่อสร้างใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนหน้า อย่างไรก็ตามไตรมาส 4/60 อาจมีค่าใช้จ่ายที่ปรึกษาทางการเงินเกี่ยวกับการลงทุนในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นกดดันกำไร คาดกำไรไตรมาส 4/60 อยู่ที่ราว 10 ล้านบาท  โดยยังคงประมาณการกำไรปี 60 ที่ 45 ล้านบาทหดตัว 36% จากปีก่อน เพราะมูลค่าการส่งมอบเครื่องฉายรังสีในปีนี้สามารถทำได้ตามเป้าที่ 300 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามคาดว่ารายได้ปี 61 อยู่ที่ราว 800 ล้านบาทโดยมาจากรายได้ในการขายราว 600 ล้านบาท ซึ่งมองว่าบริษัทมีโอกาสทำได้สูงจากในปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างยื่นประมูลงานใหม่ 800-1,000 ล้านบาทโดยคาดหวังว่าจะได้งานอย่างน้อย 50% โดยล่าสุดบริษัทมีงานในมือ (Back log) ราว 1.33 พันล้านบาท (รับรู้ปี 60 : 70 ล้านบาท ปี 61 : 64 ล้านบาท และปี 63 : 1.2 พันล้านบาท) ขณะที่คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะทรงตัวที่ 15-17% และไม่มีค่าใช้จ่ายค่าที่ปรึกษาเข้ามากดดัน โดยคาดว่าบริษัทจะรายงานกำไรปี 61 ที่ 65 ล้านบาทเติบโต 44% จากปีก่อน

นอกจากนี้บริษัทมีแผนจะลงทุน 65% ในโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านการรักษาโรงมะเร็งที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท (มูลค่าลงทุน 500 ล้านบาท) ขนาด 30 เตียง โดยมีการติดตั้งเครื่องฉายรังสี 1 เครื่องเพื่อรองรับการรักษาผู้ป่วยใน 8 จังหวัดภาคตะวันออกซึ่งมีคู่แข่งทางตรงเพียง 1 แห่ง (โรงพยาบาลมะเร็งชลบุรี) โดยให้บริการรักษาผู้ป่วยในรูปแบบฉายรังสีและเคมีบำบัด

พร้อมกันนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนธ.ค.62 ฝ่ายวิจัยคาดว่าการลงทุนในโรงพยาบาลเฉพาะทางจะเป็นการต่อยอดการเติบโตหรือ S-Curve เพราะรายได้จากโรงพยาบาลมีรายได้ค่อนข้างสม่ำเสมอกว่ารายได้จากการขายเครื่องฉายรังสี ซึ่งมีมุมมองบวกต่อการลงทุนในโรงพยาบาลเพราะธุรกิจโรงพยาบาลมีมูลค่าสูงกว่าธุรกิจจำหน่ายเครื่องฉายรังสีซึ่งทำให้มูลค่าของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในอนาคต

ทั้งนี้คงคำแนะนำ “ถือ” ที่ราคาเหมาะสม 4.80 บาท โดยประเมินราคาเหมาะสมปี 61 ด้วยวิธี PE Ratio คาดกำไรต่อหุ้นปี 61 อยู่ที่ 0.16 บาทต่อหุ้น อิง Prospective PE ที่ 30 เท่า ซึ่งต่ำกว่า PE ของตลาด MAI ที่ 99 เท่าและต่ำกว่า PE ของอุตสาหกรรมโรงพยาบาลที่ 36 เท่าเพราะเราใช้มุมมองเชิงอนุรักษ์นิยม (conservative) เนื่องจากรายได้ตามสัญญามีความผันผวน ได้ราคาเหมาะสม 4.8 บาท (ยังไม่ได้รวมมูลค่าธุรกิจโรงพยาบาล) แต่กำไรไตรมาส 4 มีแนวโน้มอ่อนตัวลงจึงแนะนำเพียง “ถือ”

อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าจับตาว่าในวันนี้ราคาหุ้น BIZ จะสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องได้อีกหรือไม่ หลังจากที่วานนี้มีมูลค่าซื้อขายเข้ามาอย่างหนาแน่น ขณะที่หากคำนวนราคาเป้าหมายจากที่บล.โกลเบล็ก ให้ไว้ที่ 4.80 บาท เทียบกับราคาหุ้นปัจจุบัน จะเท่ากับว่าราคาหุ้นยังมีอัพไซด์อยู่ถึง 26.32% จึงเป็นไปได้ว่าราคาหุ้นจะปรับตัวขึ้นได้อีก

Back to top button