
กรมควบคุมมลพิษเตือน! “กทม.-ปริมณฑล”ค่าฝุ่นละอองยังพีค เริ่มกระทบสุขภาพคนกรุงฯ
กรมควบคุมมลพิษเตือน! "กทม.-ปริมณฑล"ค่าฝุ่นละอองพีคต่อเนื่องเริ่มกระทบสุขภาพคนกรุงฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ (14 ม.ค.) เว็บไซต์ http://bangkokairquality.com ของกรุงเทพมหานคร รายงานสภาพอากาศ เมื่อเวลา 08.00 น. โดยค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก 2.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยยังคงมีจุดที่น่าเป็นห่วงเนื่องจากเริ่มมีผลกระทบกับสุขภาพประชาชนในพื้นที่ กทม. โดยจุดที่มีค่าฝุ่นละอองมากที่สุดในช่วงเช้าวันนี้ ได้แก่ เขตบางคอแหลม บริเวณป้อมตำรวจสี่แยกถนนตก โดยมีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก 2.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรอยู่ที่ 81
สำหรับปัจจัยของสภาพภูมิอากาศที่มีความกดอากาศสูงในช่วงนี้ ทำให้อากาศไม่เคลื่อนที่ ประกอบกับการปล่อยควันท่อไอเสียของรถที่สะสมทุกวัน เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กในหลายพื้นที่ของกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ทั้งนี้ คณะกรรมการแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก 2.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ยืนยันมีมาตรการควบคุมปัญหานี้ใน กทม.และ 5 จังหวัดปริมณฑล
โดยนายชาตรี วัฒนเขจร ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อมกรุงเทพมหานคร ระบุว่า มาตรการระยะสั้น เพื่อแก้ปัญหาฝุ่นละอองนี้ ได้ให้ทุกเขตล้างทำความสะอาดถนนทุกวัน ห้ามเผาขยะ เผาหญ้าในที่โล่งแจ้ง เร่งคืนผิวจราจรในแนวก่อสร้างรถไฟฟ้า ควบคุมฝุ่นละอองจากการก่อสร้างอาคารและรถไฟฟ้า ตั้งด่านตรวจจับรถควันดำ และเพิ่มตำรวจในจุดจราจรหนาแน่น เพื่อบรรเทาการสะสมของฝุ่นละอองขนาดเล็ก
ขณะที่ นายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ระบุว่า สถานการณ์ขณะนี้ยังไม่วิกฤติ เพราะมีค่าฝุ่นละอองเกินค่า 90 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรที่มีผลกระทบต่อสุขภาพไม่มากนัก และเชื่อว่าค่าฝุ่นละอองจะลดลงในวันนี้ โดยได้ประสานความร่วมมือกับ กทม. ตำรวจจราจร กรมการขนส่งทางบก เข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายและมีมาตรการแก้ปัญหาระยะสั้นและระยะยาว
โดย กทม.ใช้รถฉีดน้ำแรงดันสูง ก็ช่วยลดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กลงได้มาก การร่วมกับตำรวจตรวจจับรถควันดำ หรือการร่วมกับกรมการขนส่งทางบก กำหนดเวลาวิ่งรถบรรทุกขนาดใหญ่ในเขตเมืองเวลา 10.00 – 15.00 น. เพื่อหลีกเลี่ยงความหนาแน่นของจราจร หรือแม้แต่การเร่งคืนผิวจราจรตามแนวก่อสร้างรถไฟฟ้าของ กทม.ด้วยการขยับแท่งปูนชิดตอม่อรถไฟฟ้า ทำให้รถเคลื่อนตัวได้ดีขึ้น ไม่เกิดการสะสมของค่าฝุ่นละอองจากควันท่อไอเสียรถ
สำหรับมาตรการระยะยาว ซึ่งกรมควบคุมมลพิษรับผิดชอบดูแลได้ร่วมหารือกับผู้ประกอบการรถยนต์เพื่อปรับใช้น้ำมันเชื้อเพลิงจากดีเซลเป็นไบโอดีเซล หรือ บี 20 และปรับปรุงมาตรฐานไอเสียรถยนต์ พร้อมพัฒนาระบบโครงข่ายให้บริการขนส่งสาธารณะ จัดพื้นที่จอดแล้วจร และเพิ่มพื้นที่สีเขียวสวนสาธารณะ
ข้อแนะนำด้านสุขภาพ ประชาชนทั่วไป: สามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งได้ตามปกติ
กลุ่มเสี่ยง: ควรเฝ้าระวังสุขภาพ ถ้ามีอาการเบื้องต้น เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง
*ประชาชนกลุ่มเสี่ยง* หมายถึง เด็ก คนชรา หญิงมีครรภ์ และผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวในกลุ่มโรคทางเดินหายใจ และโรคหัวใจและหลอดเลือด