
SIRI เปิดตัวโครงการ”ไทเกอร์ เลน” มูลค่า 500 ลบ. คาดหนุนรายได้ปีนี้ 2.9 หมื่นลบ.ตามเป้า
SIRI เปิดตัวโครงการ"ไทเกอร์ เลน" มูลค่า 500 ลบ. คาดหนุนรายได้ปีนี้ 2.9 หมื่นลบ.ตามเป้า
นายปิติ จารุกำจร รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมและบริหารกลยุทธ์โครงการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า บริษัทเปิดตัวโครงการ “Tiger Lane” (ไทเกอร์ เลน) ลักซ์ชัวรี่โฮมออฟฟิศดีไซน์โมเดิร์นคลาสสิกสไตล์”ชิโน-โปรตุกีส” (Sino-Portuguese) ซึ่งขณะนี้ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์พร้อมขายและโอน รวมมูลค่าโครงการกว่า 500 ล้านบาท เริ่มต้นที่ 38 ล้านบาท ตั้งเป้าเจาะกลุ่มเรียลดีมานด์เจ้าของธุรกิจเชื้อสายไทย-จีนเจนเนอเรชั่นใหม่ที่ขยายธุรกิจในย่านเสือป่าและเยาวราช หนึ่งในศูนย์กลางการค้าและธุรกิจสำคัญของไทย
ทั้งนี้ จากการสำรวจตลาดในย่านเสือป่า พบว่า ตลาดที่อยู่อาศัยซึ่งมีศักยภาพด้านการทำธุรกิจการค้า ยังเป็นตลาดสำคัญและเป็นที่ต้องการมากที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เพราะเป็นทั้งศูนย์กลางทางวัฒนธรรมเก่าแก่และพื้นที่ธุรกิจการค้าสำคัญของไทยมานานกว่า 200 ปี ทั้งยังเป็นย่าน CBD แห่งแรกในประเทศไทยของชาวไทยเชื้อสายจีนซึ่งปัจจุบันติดอันดับ Top 10 ราคาที่ดินสูงสุดในประเทศไทยด้วยมูลค่าพุ่งสูงถึง เกือบ 1 ล้านบาทต่อตารางวา (ข้อมูลจากฐานเศรษฐกิจ 20 ก.พ. 2561)
นอกจากนี้ ความเชื่อหลักฮวงจุ้ยของชาวจีน ทำเล ที่ตั้งยังอยู่ในตำแหน่งท้องมังกรนั้นโดดเด่นในด้านการเดินทางและการค้าที่เสริมความเจริญรุ่งเรืองและอุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะสำหรับกลุ่มลูกค้าที่คำนึงถึงศักยภาพเพื่อต่อยอดธุรกิจ ความคุ้มค่าจากการลงทุนในสินทรัพย์ที่ส่งต่อให้ลูกหลานได้ รวมทั้งกลุ่มคนรุ่นใหม่ในพื้นที่ที่ต้องการขยับขยายที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับทำเลเดิมจึงเป็นที่มาของการพัฒนาโครงการ “ไทเกอร์ เลน” ที่เปรียบเป็นทรัพย์สมบัติเพิ่มมูลค่าขึ้นบนทำเลที่มีมูลค่าสูงอย่างไม่สิ้นสุด ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักในการขยายธุรกิจของเราในปีนี้ไปยังตลาดใหม่ที่มีศักยภาพได้อีกมาก
“เราหวังว่า Tiger Lane จะเป็นอีกหนึ่งโครงการที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าเรียลดีมานด์หรือผู้ที่ลงทุนธุรกิจในย่านนี้ได้อย่างดี โดยจะเริ่มเปิดขายแบบเอ็กซ์คลูซีฟเพียง 5 ยูนิตในวันที่ 31 ส.ค. และ 1ก.ย.นี้ คาดว่าจะได้รับผลตอบรับที่ดีสามารถปิดการขายได้ทั้งหมดอย่างรวดเร็ว และส่งมอบที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จพร้อมโอนตามกำหนดรับส่งผลให้ยอดขายบริษัทฯปีนี้ สามารถเป็นไปตามเป้าที่ 29,000 ล้านบาท” นายปิติ กล่าว