INSET ปลื้มขายไอพีโอ 146 ล้านหุ้นเกลี้ยง สะท้อนความเชื่อมั่นนลท. พร้อมลุยเทรด 8 ต.ค.62

INSET ปลื้มขายไอพีโอ 146 ล้านหุ้นเกลี้ยง สะท้อนความเชื่อมั่นนักลงทุน ปักธงเทรด mai 8 ต.ค.นี้ ระดมทุนใช้ขยายธุรกิจหนุนผลงานโตต่อเนื่อง


นายเล็ก สิขรวิทย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินในการเสนอขายหุ้นไอพีโอของ INSET เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้เปิดจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 146 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 2.69 บาท รวมเป็นเงินมูลค่า 392.74 ล้านบาท ในระหว่างวันที่ 27,30 กันยายน และ1 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างมาก มียอดจองซื้อหุ้น IPO เข้ามาเต็มทั้งจำนวน ถือว่าประสบความสำเร็จ  สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อธุรกิจของ INSET

“การจองซื้อหุ้นไอพีโอของ INSET ประสบความสำเร็จและมีกระแสตอบรับดีมากๆ แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อ INSET ที่ถือเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง มีการให้บริการที่ครบวงจรในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม และมีศักยภาพการเติบโตในอนาคต อย่างไรก็ตาม การระดมทุนในตลาดทุนครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้ INSET แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ราคาไอพีโอที่ 2.69 บาทต่อหุ้น ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสมและคุ้มค่าสำหรับการลงทุนในระยะยาว” นายเล็ก สิขรวิทย กล่าว

ทั้งนี้ หุ้น INSET เตรียมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) วันที่ 8 ตุลาคม 2562 นี้ โดยอยู่ในกลุ่มเทคโนโลยี  ใช้ชื่อย่อในการซื้อขายว่า INSET

นายศักดิ์บวร พุกกะณะสุต กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินฟราเซท จำกัด (มหาชน) หรือ INSET เปิดเผยว่า บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ไปใช้ในการขยายธุรกิจ เช่น โครงการก่อสร้างโครงข่ายท่อร้อยสายสื่อสารลงใต้ดิน ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พื้นที่ 2 และโครงการวางระบบเครือข่ายรวมถึงอุปกรณ์ WiFi (โครงการ  Google Station) รวมทั้งใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน และมีความมั่นใจว่า ภายหลังจากการเสนอขายหุ้น จะทำให้มีศักยภาพในการประมูลในโครงการขนาดใหญ่ หนุนการเติบโตในอนาคตอีกด้วย

“การเข้าจดทะเบียนในตลาด mai ถือเป็นการสร้างโอกาสให้กับธุรกิจของบริษัทฯในการเติบโตในอนาคต อีกทั้งยังสะท้อนให้เห็นถึงความโปร่งใสในการดำเนินธุรกิจ สร้างความเชื่อมั่นให้กับพันธมิตร และ คู่ค้า และผลักดันรายได้ และกำไรให้เติบโตอย่างมีเสถียรภาพ รวมถึงสร้างผลตอบแทนที่ดีในอนาคตให้กับนักลงทุน ที่สำคัญคือในปัจจุบัน บริษัทฯ มี Backlog ในมือมากถึง 2.7 พันล้านบาทเท่ากับมีฐานรายได้รอรับรู้เอาไว้แล้ว โดยจะรับรู้รายได้จากงานโครงการในระยะเวลา 2-3 ปีจากนี้ และรับรู้ recurring income อีกประมาณ 5 ปีจากนี้” นายศักดิ์บวร กล่าว

คุณศักดิ์บวรกล่าวอีกว่า แนวโน้มอุตสาหกรรมโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคม มีการเติบโตที่ดีต่อเนื่อง จึงส่งผลให้ความต้องการใช้ศูนย์ข้อมูล และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมากขึ้น เพื่อรองรับระบบเทคโนโลยีที่จะมีการเปลี่ยนแปลงจากระดับ 4G เป็น 5G รวมทั้งในอนาคตจะมีการพัฒนาตลอดเวลา เพื่อให้ทันกับสถานการณ์กระแสโลกในปัจจุบัน

อนึ่ง การดำเนินธุรกิจของ INSET มีรูปแบบการดำเนินธุรกิจ  3 ประเภทประกอบด้วย  ธุรกิจก่อสร้างศูนย์ข้อมูล และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (Data Center & Information Technology Infrastructure)  ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานและโครงข่ายโทรคมนาคม (Telecommunication Infrastructure) และธุรกิจงานซ่อมบำรุงและบริการ (Maintenance and Service) ด้านศูนย์ข้อมูลและระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ รวมถึงโครงข่ายโทรคมนาคม

Back to top button