ACE เข้าทางปืน.!?

จากกรณีกระทรวงพลังงาน มีนโยบายจะเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนจำนวน 700 เมกะวัตต์ ในปี 63 ทำให้หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าขนาดเล็กมีสีสันมากขึ้น..! แต่ที่น่าจะมีสีสันมากสุดเห็นจะเป็นบริษัท แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ACE


สำนักข่าวรัชดา

จากกรณีกระทรวงพลังงาน มีนโยบายจะเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนจำนวน 700 เมกะวัตต์ ในปี 63 ทำให้หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าขนาดเล็กมีสีสันมากขึ้น..! แต่ที่น่าจะมีสีสันมากสุดเห็นจะเป็นบริษัท แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ACE

เพราะถ้าดูจากเงื่อนไขที่ “สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ประกาศว่า “เน้นผลประโยชน์แก่ชุมชนสูงสุดมากกว่าอัตราค่าไฟฟ้าที่ถูก”

หรือกรณีระบุว่า “การให้ชุมชนเข้าร่วมทุนโรงไฟฟ้าชุมชน เช่น ขั้นต่ำ 10% นั้น เบื้องต้นจะกำหนดให้ชุมชนไม่ต้องใส่เงินร่วมทุน แต่จะขอให้นำเงินปันผลจากการขายไฟฟ้าในสัญญา 20 ปีมาจ่ายแทน รูปแบบการซื้อขายจะเป็น Contact Farming ซึ่งหากโรงไฟฟ้าเบี้ยวไม่ซื้อพืชจากชาวบ้าน ทางภาครัฐจะยกเลิกการซื้อไฟฟ้า”

ก็น่าจะเข้าทาง ACE มากสุด..!

เนื่องจากถ้าไปสำรวจความพร้อมของ ACE จะเห็นว่า มีการเตรียมความพร้อมในด้านต่าง ๆ ไว้หมดแล้ว…

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวัตถุดิบ ที่ได้ทำ Contact Farming กับเกษตรกรไว้แล้ว โดยร่วมกับชุมชนในการเข้าไปส่งเสริมปลูกพืชพลังงานที่ใช้เป็นเชื้อเพลิง เช่น อ้อย หญ้าเนเปียร์ แกลบ ขี้เลื่อย และอื่น ๆ รวมทั้งมีการพัฒนาสายพันธุ์เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น พัฒนาสายพันธุ์กล้าต้นยูคาลิปตัส ที่ให้ความร้อนสูงกว่าถ่านหินลิกไนต์ เป็นต้น

หรือจะเป็นระบบการผลิตไฟฟ้า ก็มีการพัฒนาให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ประหยัดเชื้อเพลิง และลดการสูญเสีย โดยสามารถใช้วัตถุดิบที่มีความชื้นสูงเทียบเท่าไม้แห้ง เช่น การใช้เปลือกยูคาลิปตัส ที่มีความชื้นสูง 60-65% เทียบกับแกลบที่มีความชื้นเพียง 30-40% ทำให้มีต้นทุนต่ำ แต่อัตรากำไรสุทธิสูง

ที่สำคัญโรงไฟฟ้าของ ACE จะหยุดซ่อมบำรุงเพียงปีละ 1 ครั้ง และหยุดครั้งละไม่เกิน 10 วัน ต่างจากโรงไฟฟ้าแห่งอื่นที่อาจหยุด 2 ครั้ง หรือ 4 ครั้งต่อปี เป็นจุดเด่นกว่าเจ้าอื่น

นั่นเท่ากับว่า นโยบายโรงไฟฟ้าชุมชนของกระทรวงพลังงาน…ACE น่าจะได้ประโยชน์สูงสุด

อย่างนี้ถ้าไม่เรียกว่า เข้าทางปืน ACE ก็คงไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้วล่ะ…

แหม๊…อยากรู้จริง ๆ ว่าใครนะที่เป็นคนร่างกฎเกณฑ์ขึ้นมา มันช่างเข้าทาง ACE ไปซะหมด…

แต่น่าแปลกทั้ง ๆ ที่ ACE ถูกมองว่า มีพื้นฐานแกร่ง เนื่องจากมีรายได้ที่แน่นอน และมั่นคงจากสัญญาขายไฟฟ้าในระยะยาวให้กฟภ.และกฟผ. ในราคาที่แน่นอนและมีกำไรดี ปัจจุบันมีโรงไฟฟ้าที่ COD แล้วจำนวน 211.18 เมกะวัตต์ และคาดว่าจะมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 411.47 เมกะวัตต์ ภายใน 2-3 ปีข้างหน้า

แต่ทุกวันนี้ ACE ยังมีสถานะเป็น “หุ้นต่ำจอง” โดยวานนี้ราคาปิดตลาดที่ระดับราคา 4.16 บาท (เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 13 พ.ย. 62 ด้วยราคาไอพีโอ 4.40 บาท)

กลายเป็นหุ้นไอพีโออีกหนึ่งตัวที่สร้างฝันร้ายให้กับนักลงทุน

ยังไงต้องฝากผู้บริหาร “กลุ่มทรงเมตตา” ต้องเร่งหาทางเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนโดยด่วน

ไม่เช่นนั้นแม้จะมีดี แต่ถ้าไม่มีใครเห็น ก็คงสูญเปล่า…จริงมั้ย..?

…อิ อิ อิ…

Back to top button