TPLAS ปักเป้ารายได้ปีนี้โต 15% ขยายฐานลูกค้าแบรนด์ “B-LEAF” ต่อเนื่อง
TPLAS ปักเป้ารายได้ปีนี้โต 15% เดินหน้าขยายฐานลูกค้าแบรนด์ "B-LEAF" ต่อเนื่อง
นายธีระชัย ธีระรุจินนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยอุตสาหกรรมพลาสติก (1994) จำกัด (มหาชน) หรือ TPLAS เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานผลการดำเนินงานงวดปี 2562 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2562 บริษัทฯ มีรายได้รวม 513.06 ล้านบาท ลดลง 45.16 ล้านบาท หรือคิดเป็น 8.09 % เมื่อเทียบกับปีก่อน ในขณะที่มีกำไรสุทธิ 33.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.48 ล้านบาท หรือคิดเป็น 39.79 % เมื่อเทียบจากปีก่อน
ทั้งนี้ สำหรับอัตราการปรับตัวที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทฯ มีการปรับกลยุทธ์การขาย โดยเน้นการเพิ่มมาร์จิ้น รวมถึงการบริหารจัดการในการควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายโดยการทำกำไร จากการปรับเพิ่มส่วนต่างระหว่างราคาขายและราคาวัตถุดิบที่เปลี่ยนแปลงได้ดี ขณะที่ความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ถุง บรรจุอาหาร และถุงหูหิ้ว พร้อมทั้งฟิล์มยืดห่อหุ้มอาหาร ยังคงมีความต้องการใช้อย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะกลุ่มลูกค้า หรือ ผู้ประกอบการที่มีความจำเป็นในการใช้ผลิตภัณฑ์บรรจุอาหาร
ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมา บริษัทฯ มีการแตกไลน์ไปยังผลิตภัณฑ์ใหม่ ประเภทกล่องบรรจุอาหาร ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ภายใต้แบรนด์ “B-LEAF (บี-ลีฟ)” ซึ่งโปรดักส์ดังกล่าวสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้ และยังสามารถทดแทนการลดใช้บรรจุภัณฑ์ประเภทกล่องโฟม ได้มากขึ้น
นอกจากนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติจ่ายปันผลงวดปี 2562 (ม.ค.-ธ.ค.) อัตราหุ้นละ 0.10 บาท โดยกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) วันที่ 21 เม.ย. 2563 และกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 20 เม.ย. 2563 เพื่อจ่ายปันผล วันที่ 05 พ.ค. 2563
สำหรับภาพรวมในปี 2563 บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นทำการตลาดเชิงรุก ในผลิตภัณฑ์กล่องกระดาษบรรจุอาหาร จากเยื่อไผ่ ภายใต้แบรนด์ “B-LEAF” อย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯเร่งทำตลาดสินค้าดังกล่า เพื่อจำหน่ายในล็อตที่ 2 อีกจำนวน 800,000 กล่อง พร้อมทั้งตั้งเป้ายอดขายเฉพาะบรรจุภัณฑ์ สำหรับบรรจุอาหาร ไว้ประมาณ 30 ล้านบาท และคาดว่าจะมีโอกาสเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ ประเภทกล่องบรรจุอาหาร ทยอยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ผลิตภัณฑ์ประเภทถุงบรรจุอาหาร ถุงหูหิ้ว และฟิล์มยืดห่อหุ้มอาหาร ก็ยังคงมีความต้องการในกลุ่มพ่อค้าแม่ค้า เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม จากประเด็นดังกล่าวในข้างต้น ส่งผลให้บริษัทฯ ตั้งเป้าอัตราการเติบโตของรายรวมเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 15% ซึ่งสัดส่วนรายได้หลักยังคงมาจากจำหน่ายผลิตภัณฑ์ถุงบรรจุอาหาร ถุงหูหิ้ว และฟิล์มยืดห่อหุ้มอาหาร ประมาณ 95% และในส่วนกล่องกระดาษบรรจุอาหาร ประมาณ 5%