IIG ปีนี้แบ็กล็อกแน่น

IIG ได้รับอานิสงส์ไปเต็ม ๆ จากการมาของโควิด กลายเป็นอัตราเร่งที่ทำให้ภาคธุรกิจต่าง ๆ ปรับเปลี่ยนองค์กรมาสู่ดิจิทัลเร็วขึ้น


คุณค่าบริษัท

การมาของโควิด กลายเป็นอัตราเร่งที่ทำให้ภาคธุรกิจต่าง ๆ ปรับเปลี่ยนองค์กรมาสู่ดิจิทัลเร็วขึ้น ส่งผลให้บริษัท ไอแอนด์ไอ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ IIG ซึ่งเป็นผู้ให้บริการคำปรึกษาด้านดิจิทัลและเทคโนโลยี ผ่านโซลูชั่นต่าง ๆ ได้รับอานิสงส์ไปเต็ม ๆ

สะท้อนได้จากผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมาเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะในปี 2564 ที่มีกำไรสุทธิ 79.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% จากปี 2563 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 62.77 ล้านบาท และมีรายได้อยู่ที่ 690 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% จากปี 2563 ที่มีรายได้อยู่ที่ 553 ล้านบาท

แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจด้านการบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM) จำนวน 364.06 ล้านบาท รายได้จากธุรกิจด้านการวางแผนทรัพยากรองค์กร (ERP) จำนวน 244.48 ล้านบาท รายได้จากบริการที่ปรึกษาด้านการวางแผนกลยุทธ์แบรนด์ การสร้างและบริหารประสบการณ์ลูกค้า (CEM) และการตลาดดิจิทัล จำนวน 35.15 ล้านบาท รายได้จากธุรกิจด้านการวิเคราะห์และจัดการข้อมูลเพื่อธุรกิจ (iiG Data) จำนวน 14.49 ล้านบาท และรายได้จากบริการจัดหาบุคลากรทางด้านระบบงานสารสนเทศ จำนวน 26.09 ล้านบาท

ส่วนในปี 2565 ผู้บริหารคาดว่าจะเติบโตต่อ ด้วยเป้าหมายจะมีรายได้อยู่ที่ 900-950 ล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทมีมูลค่าสัญญารายปี มูลค่ารวม 424 ล้านบาท และยังอยู่ระหว่างนำเสนองาน มูลค่ารวม 500 ล้านบาท ขณะที่มีแบ็กล็อกอยู่ที่ 546 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ปี 2565 ประมาณ 400 ล้านบาท หลังจากในช่วงต้นปี 2565 บริษัทได้งานในส่วนของธุรกิจด้านการวางแผนทรัพยากรองค์กร (ERP) มูลค่า 42 ล้านบาท

ล่าสุดบริษัทลูก บริษัท ไอซีอี คอนซัลติ้ง จำกัด (iCE) เพิ่งลงนามทำสัญญากับบริษัท บริการภาคพื้น ท่าอากาศยานไทย จำกัด (AOTGA) เพื่อดำเนินการในโครงการออกแบบและพัฒนาระบบบริหารจัดการทรัพยากรองค์กร (ERP) ด้วย Oracle E-Business Suite เพื่อเพิ่มความคล่องตัวและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานทางบัญชีการเงินและจัดซื้อ

นอกจากนี้ ยังมีงานในส่วนของ Customer Experience/Digital Marketing และ Data มูลค่า 444 ล้านบาท สัญญาระยะเวลา 5 ปี คาดว่าจะรับรู้รายได้ปีนี้จำนวน 120 ล้านบาท

ส่วนธุรกิจด้านการวิเคราะห์และจัดการข้อมูลเพื่อธุรกิจ (iiG Data) คาดว่าในปีนี้จะเติบโตมาก เนื่องจากขณะนี้เป็นการตลาดดิจิทัลทั้งหมด ซึ่งการทำตลาดดิจิทัล สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ข้อมูลลูกค้า (Customer Data) สำหรับนักการตลาด กลายเป็นโอกาสที่จะมาช่วยหนุนการเติบโตของบริษัท

สำหรับการประเมินมูลค่า (Valuation) ปัจจุบันราคาหุ้น IIG ซื้อขายกันที่ P/E ระดับ 49.17 เท่า เทียบกับ P/E ตลาดโดยรวมที่ระดับ 19.53  เท่า ถือว่าราคาซื้อขายสูงกว่าตลาดมาก แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าดู P/BV ที่ระดับ 7.05 เท่า ก็อาจสูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ส่วนใหญ่ P/BV จะอยู่ที่ระดับ 1–2 เท่า โดยมีราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 42.50 บาท จากราคาต่ำสุด 40.00 บาท และราคาสูงสุด 45.00 บาท

รายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่

  1. นายสมชาย เมฆะสุวรรณโรจน์ 28,516,000 หุ้น 28.52%
  2. นายชาญชัย ปัญจมงคล 8,140,000 หุ้น 8.14%
  3. บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) 5,579,900 หุ้น 5.58%
  4. น.ส.กาญจนา ลิ้มปัญญาเลิศ 5,438,000 หุ้น 5.44%
  5. น.ส.รัตติยา รักอำนวยกิจ 4,528,000 หุ้น 4.53%

รายชื่อกรรมการ

  1. นายเพิ่มสุข สุทธินุ่น ประธานกรรมการบริษัท, กรรมการอิสระ
  2. นายสมชาย เมฆะสุวรรณโรจน์ รองประธานกรรมการบริษัท, ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
  3. น.ส.กาญจนา ลิ้มปัญญาเลิศ กรรมการ
  4. นายธนวุฒิ สุนทรเดชา กรรมการ
  5. นายณัฐเชษฐ์ เทพูปถัมภ์ กรรมการ
  6. นางเกวลิน เลศะวานิช กรรมการ
  7. นายไพบูลย์ คุจารีวณิช กรรมการอิสระ, ประธานกรรมการตรวจสอบ
  8. นายยศ กิมสวัสดิ์ กรรมการอิสระ, กรรมการตรวจสอบ
  9. นายเอกก์ ภทรธนกุล กรรมการอิสระ, กรรมการตรวจสอบ

Back to top button