“พาณิชย์” ยันสินค้าเพียงพอช่วง “น้ำท่วม” กำชับห้างเพิ่มปริมาณสต็อก

“กรมการค้าภายภายใน” ยันติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าและปริมาณสินค้าใกล้ชิด พร้อมยืนยันสินค้ามีเพียงพอ-จัดส่งได้ตามปกติ หลังมีการกำชับให้ห้างค้าปลีกค้าส่งเพิ่มปริมาณสต็อกสินค้าให้เพียงพอต่อความต้องการ


นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมการค้าภายใน ได้ประชุมหารือร่วมกับห้างค้าปลีกค้าส่ง ได้แก่ บิ๊กซี, โลตัส, แม็คโคร, ฟู้ดแลนด์, ท็อปส์, เดอะมอลล์, เซเว่นอีเลฟเว่น, ลอว์สัน, และแม็กซ์แวลู เพื่อติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าและปริมาณสินค้าว่าได้มีการสำรองไว้เพียงพอหรือไม่ และมีข้อติดขัดในการขนส่งสินค้าหรือไม่ ตามนโยบายที่ได้รับจากนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ ที่เป็นห่วงสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ อาจส่งผลกระทบต่อการบริโภคสินค้าของประชาชน โดยผลการหารือแต่ละห้างได้ยืนยันว่า ได้จัดเตรียมสินค้าไว้เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคแล้ว ส่วนการขนส่งไปยังศูนย์กระจายสินค้าและสาขาของห้างยังคงสามารถดำเนินการได้ และมีแผนรับมือในสถานการณ์ฉุกเฉินไว้แล้ว

โดย กรมฯ ได้กำชับให้ห้างเพิ่มปริมาณสต็อกสินค้าให้เพียงพอต่อความต้องการ โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีความจำเป็น เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป, อาหารกระป๋อง, อาหารสำเร็จรูป, และน้ำดื่ม รวมถึงให้เพิ่มความถี่ในการเติมสินค้าบนชั้นวางอยู่เสมอ ปิดป้ายราคาให้ชัดเจน และให้ห้างบริหารจัดส่งสินค้า หากศูนย์กระจายสินค้าได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เช่น จัดหาศูนย์กระจายสินค้าสำรอง และเน้นการส่งสินค้าจากผู้ผลิตไปยังสาขาห้างโดยตรง เพื่อป้องกันปัญหาด้านการขนส่งสินค้า โดยกรมฯ พร้อมที่จะสนับสนุนในการประสานงานกับผู้ผลิตเพื่อจัดส่งสินค้าอุปโภคบริโภคไปยังห้างค้าส่ง-ค้าปลีกเพิ่มเติมในกรณีที่จำเป็น

ทั้งนี้ขอให้ประชาชนมั่นใจว่าปริมาณสินค้ามีเพียงพออย่างแน่นอนไม่ต้องกังวลและไม่จำเป็นต้องกักตุน และกรมฯ จะจัดส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบสถานการณ์ราคาสินค้าและปริมาณอย่างต่อเนื่อง หากประชาชนพบเห็นการกักตุนสินค้าหรือขายสินค้าโดยไม่เป็นธรรม สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ถ้าตรวจสอบพบมีการจำหน่ายสินค้าในราคาแพงเกินสมควร หรือมีการกักตุน หรือปฏิเสธการจำหน่าย จะมีโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และกรณีที่ไม่ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายจะมีโทษสูงสุดปรับไม่เกิน 10,000 บาท

Back to top button